งานฌาปนกิจศพภาพยนตร์เรื่อง Insects in the Backyard
เนื่องด้วยในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ภาพยนตร์ไทยเรื่อง Insects in the Backyard ถูกคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์มีคำสั่งห้ามฉาย และ มีการตัดสินคดีความที่เกิดจากการขายสื่อวิดีทัศน์ (วีซีดีและดีวีดี) จำนวน 10 แผ่น โดยไม่มีใบอนุญาต (ซึ่งมีโทษสูงถึงปรับสองแสนถึงหนึ่งล้านบาท) ทั้งสองกรณีเกี่ยวเนื่องกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาพยนตร์และสื่อวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 และได้เกิดข้อถกเถียงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งมาตรฐานและความคลุมเครือของการพิจารณาภาพยนตร์ และการกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงกว่าเหตุ
มูลนิธิหนังไทย ร่วมกับ โครงการสถาบันหนังไทย ของหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์แห่งประเทศไทย เครือข่ายคนดูหนังไทยแห่งประเทศไทย ป๊อบ พิคเจอร์ส และ นิตยสารไบโอสโคป จึงร่วมกันจัดงานเสวนาเชิงวิชาการเรื่อง "พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวิดีทัศน์กับรัฐธรรมนูญไทย" ขึ้น เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับการพูดคุยถกเถียงในแง่มุมทางกฎหมายของพ.ร.บ.ฉบับนี้ ทั้งปัญหาที่เกิดขึ้น และหาหนทางแก้ไขปัญหาในข้อกฎหมายต่างๆ และเพื่อสร้างองค์ความรู้สำหรับพัฒนาวงการภาพยนตร์ไทยต่อไปในอนาคต
โดยมี นายเจษฎา อนุจารี อุปนายกฝ่ายนโยบายและแผนงาน สภาทนายความ นางสาวสาวตรี สุขศรี อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ร่วมเป็นวิทยากรในงานเสวนาครั้งนี้ และดำเนินรายการโดย นายก้อง ฤทธิ์ดี สื่อมวลชนจากหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์
นอกจากนี้ ยังจะมีการฉายภาพยนตร์เรื่อง Insects in the Backyard ประกอบการเสวนาอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เฟซบุ๊กของคณะผู้จัดงานเสวนาครั้งนี้ได้ขึ้นข้อความแจ้งว่า จำเป็นต้องยกเลิกกำหนดการฉายภาพยนตร์เรื่อง Insects in the Backyard เนื่องด้วย ทางคณะผู้จัดงานเสวนา ได้รับจดหมายจากทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรม แจ้งเตือนความผิดฐานจัดฉายภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว (แม้กระทั่งคลิปหนังตัวอย่างก็ห้ามฉาย) แม้ว่าจะได้ชี้แจงแล้วว่าการฉายครั้งนี้ เป็นการฉายเพื่อการศึกษาเท่านั้น
ทางคณะผู้จัดงาน จึงขอประกาศงดฉายภาพยนตร์เรื่อง Insects in the Backyard ในวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคมนี้ แต่จะมีการจัดฉายภาพยนตร์ประวัิติศาสตร์ที่สำคัญๆ เช่น สารคดีงานแห่รัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม 2476 ฯลฯ ทดแทน
"นอกจากนี้ ในเวลา 14.30 น. ขอเชิญทุกท่านร่วมงานฌาปนกิจศพภาพยนตร์เรื่อง Insects in the Backyard ณ ลานดารา หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) กรุณาแต่งดำเพื่อเป็นการไว้อาลัย" คณะผู้จัดงานระบุ
โดยการเสวนาเชิงในครั้งนี้ จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม ศกนี้ (วันรัฐธรรมนูญ) ตั้งแต่เวลา 12.30 17.00 น. (งานเสวนาจะเริ่มเวลา 15.00 น.) ณ โรงภาพยนตร์ศรีศาลายา หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ถนนพุทธมณฑลสาย 5
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานครั้งนี้จะต้องลงทะเบียนล่วงหน้าที่เบอร์ 080-557-9709 หรือ thaishortfilmfestival@gmail.com โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 080-557-9709 หรือ thaishortfilmfestival@gmail.com
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นางวิไล วิทยานารถไพศาล รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ทำหนังสือลงวันที่ 9 ธันวาคม 2553 เพื่อตอบจดหมายที่ทางคณะผู้จัดงานเสวนาได้เชิญให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมส่งตัวแทนเข้าร่วมกิจกรรมวิชาการครั้งนี้ โดยหนังสือดังกล่าวมีเนื้อหาว่า
ตามหนังสือที่อ้างถึง แจ้งว่า มูลนิธิหนังไทย ร่วมกับโครงการสถาบันหนังไทย ของหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์แห่งประเทศไทย เครือข่ายคนดูหนังแห่งประเทศไทย บริษัท ป๊อบ พิกเจอร์ และนิตยสาร ไบโอสโคป จะจัดให้มีงานเสวนาเชิงวิชาการ เรื่อง พ.ร.บ. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์กับรัฐธรรมนูญไทย ในวันศุกร์ที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๓ ตั้งแต่เวลา ๑๒.๓๐ - ๑๗.๐๐ น. ณ โรงภาพยนตร์ศรีศาลายา หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ถนนพุทธมณฑล สาย ๕ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดยเชิญผู้แทนกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมเป็นวิทยากรในงานเสวนาเชิงวิชาการดังกล่าว ประกอบกับตามกำหนดการงานเสวนา ระบุว่า จะมีการฉายภาพยนตร์ เรื่อง INSECTS IN THE BACKYARD ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ได้ตรวจพิจารณาเมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ แล้วมีคำสั่งไม่อนุญาต ตามมาตรา ๒๙ แห่งพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. ๒๕๕๓ เนื่องจากมีเนื้อหาขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน โดยมีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่อคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาอุทธรณ์ นอกจากนี้จะมีการฉายตัวอย่างภาพยนตร์บางเรื่องที่มีปัญหากับพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. ๒๕๕๓ ด้วยนั้น
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้จัดงานไม่สามารถจะนำภาพยนตร์ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ตรวจพิจารณาแล้วมีคำสั่งไม่อนุญาต ตามมาตรา ๒๙ ไปฉายในงานเสวนาเชิงวิชาการดังกล่าวได้ เนื่องจากจะเป็นการฝ่าฝืนตามมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง ที่กำหนดให้ "ภาพยนตร์ที่จะนำออกฉาย ให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายในราชอาณาจักรต้องผ่านการตรวจพิจารณาและได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์" ซึ่งมีโทษมาตรา ๗๘ ที่กำหนดให้ "ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง มาตรา ๒๘ วรรคสอง มาตรา ๓๔ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองแสนถึงหนึ่งล้านบาท" นอกจากนี้หากมีการนำภาพยนตร์ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ตรวจพิจารณาแล้วมีคำสั่งจัดให้เป็นภาพยนตร์ประเภทห้ามเผยแพร่ในราชอาณาจักร ตามมาตรา ๒๖ (๗) จะมีโทษตามมาตรา ๗๗ ที่กำหนดให้ "ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๓ วรรคหนึ่ง หรือนำภาพยนตร์ตามมาตรา ๒๖ (๗) ออกเผยแพร่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
อย่างไรก็ตาม หากผู้จัดงานประสงค์จะมีการเสวนาเชิงวิชาการเกี่ยวกับเนื้อหาในภาพยนตร์ ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ตรวจพิจารณาแล้วมีคำสั่งไม่อนุญาต ตามมาตรา ๒๙ หรือมีคำสั่งจัดให้เป็นภาพยนตร์ประเภทห้ามเผยแพร่ในราชอาณาจักร ตามมาตรา ๒๖ (๗) อาจใช้วิธีการสรุปเรื่องย่อภาพยนตร์เป็นสื่อประกอบการเสวนาแทนการฉายภาพยนตร์ได้ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ไม่สามารถส่งผู้แทนเข้าร่วมเป็นวิทยากรในการเสวนาดังกล่าวได้ และขออภัยมา ณ โอกาสนี้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้แจ้งให้ผู้อำนวยการหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ทราบอีกทางหนึ่งแล้ว
credit : matichon
_________________
