http://www.facebook.com/hysteriaculture
http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/06/21/live-forever-michelle-branch-hotel-paper-pop-rockfolk-rockalternative-rock-94-55-a/
(Live Forever) Michelle Branch : Hotel Paper : Pop Rock/Folk Rock/Alternative Rock (94% = 5/5) - A
คอลัมน์ Live Forever ประจำเดือนมิถุนายน 2014ของศิลปินละทินหนุ่มสุดเซ็กซี่อย่าง ริคกี้ มาร์ทิน อาจจะถูกรวบรัดให้ปิดฉากเร็วกว่ากำหนดเนื่องด้วยช่วงที่ผ่านมาชีวิตได้ประสบกับเหตุการณ์เลวร้ายหลายๆอย่างซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างยิ่งจนถึงขั้นที่ไม่มีกำลังจะใจจะเขียนงานอะไรโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลงานของริคกี้ มาร์ทินที่สภาวะความรู้สึกส่วนตัวในช่วงเวลานั้นอยู่ในจุดที่ไม่ได้สื่อสารกันทางใจอีกต่อไปจึงเป็นเหตุผลที่ตัดสินใจเขียนรวบรัดเพื่อจบความรับผิดชอบต่อคอลัมน์Live Foreverของเดือนนี้ (อย่างน้อยก็ยังดูแย่น้อยกว่ามาบอกเลิกแล้วหายไปเฉยๆ)
ก่อนที่จะเปิดตัวธีมใหม่ประจำเดือนกรกฎาคม 2014ของทางเพจกับ Ravenio + Excessum Issue ทางเพจอยากจะขอกราบขอโทษท่านผู้อ่านด้วยการเปิดตัวอัลบั้มเจ้าของตำแหน่ง Live Forever ประจำเดือนหน้านี้ให้ท่านผู้อ่านทราบกันล่วงหน้าก่อนเลย สำหรับ Ravenio กับ Excessum นั้นเป็นคำศัพท์ละทินที่มีความหมายว่ากันในเรื่องของ การหวนคืน และ การลาจาก ซึ่งสะท้อนอารมณ์ธีมหน้าของทางเพจหลังจากที่ดิฉันได้ผ่านอีกหนึ่งช่วงเวลาที่แย่ที่สุดของชีวิตมาได้ทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องของความรัก,ความสูญเสีย,การจากลา,ชีวิตที่ต้องดำเนินมุ่งหน้าต่อไปไม่หยุดยั้งจวบจนเรื่องราวของจิตวิญญาณซึ่งทั้งหมดทั้งมวลดันไปตรงกันกับคอนเส็ปท์ของอัลบั้ม Hotel Paper ของ มิเชล แบรนช์ หนึ่งในอัลบั้มที่ดิฉันโปรดปรานที่สุดตลอดกาลอย่างน่าประหลาดใจ
สำหรับเด็กยุคใหม่ๆบางท่านอาจจะไม่คุ้นกับชื่อของ มิเชล แบรนช์ เสียแล้วก็เป็นได้ แต่สำหรับเด็กเจเนอเรชั่นต้นทศวรรษ2000sน่าจะยังจำช่วงเวลาที่ในแวดวงดนตรีสากลมีทีท่าคล้ายจะคว่ำบาตรดนตรี ทีนพ็อพ และ บริทนี่ย์ สเปียรส์ ได้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สาวร็อคและศิลปินหญิงสายอัลเทอเนทีฟหน้าใหม่ๆหลายท่านได้ตบเท้าเข้ามาเป็นที่ยอมรับในวงการ ผู้ที่ประสบความสำเร็จจนถึงขั้นเป็นปรากฏการณ์คงจะไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าหนีไม่พ้น อาวริล ลาวีญ ที่ทั้งภาพลักษณ์และแนวดนตรีดูเหมือนจะเป็นที่โดนใจวัยทีนชนิดแผ่กระจายเป็นผู้ทรงอิทธิพลครอบคลุมไปแทบจะทั่วทั้งโลก แต่รู้หรือไม่ว่าก่อนหน้าสาววีนโลกเราได้รู้จักกับ มิเชล แบรนช์ มาก่อนในฐานะสาวร็อคสะพายกีต้าร์ตัวจริงกับ Spirit Room สตูดิโออัลบั้มชุดแรกอย่างเป็นทางการ (เห็นว่าก่อนหน้าพี่สาวหน้าหมวยคนนี้ก็เคยมีผลงานใต้ดินมาก่อนถ้าจำไม่ผิด) พร้อมหลายซิงเกิ้ลกระแทกใจ อาทิ Everywhere (เป็นโบนัสแทร็คใน Hotel Paper เช่นกัน),All You Wanted และ Goodbye To You เป็นต้น
มาที่ Hotel Paper อัลบั้มชุดที่สองของสาวมิเชลถ้าจำไม่ผิดเห็นว่าทะยานไปถึงอันดับสองบนบิลบอร์ด Hot 200 พร้อมฟันยอดขายไปหนึ่งล้านกว่าหน่วยเฉพาะในอเมริกาวัดจากภาพรวมแล้วก็น่าจะเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเธอหลังจากเคยฟาดรางวัลแกรมมี่ร่วมกับลุงซานทาน่าไปในเพลง The Game Of Love ยอดขายก็ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่,เพลงก็ดีแถมซิงเกิ้ลแรก Are You Happy Now? ยังได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่สาขาศิลปินร็อคหญิงอีกต่างหาก หากแต่แปลกที่ดูเหมือนต้นสังกัดไม่ค่อยเข็นโปรโมตเท่าไร (เพลงก็เพราะทั้งอัลบั้มตัดมาได้ยังไงแค่สองซิงเกิ้ล? หรือเป็นผลพวงจากการที่เจ๊แก้มป่องนางยื่นฟ้องต้นสังกัด?) แถมกระแสวิพากษ์วิจารณ์ก็ดูเหมือนจะแบ่งออกเป็นสองฝักสองฝ่ายอย่างเห็นได้ชัดคือคนที่ชอบก็ชอบเลยแต่คนที่ไม่ชอบก็โจมตีว่านางสูญเสียความเป็นตัวเองและพยายามเข้าสู่สายเดียวกันกับจอห์น เมเยอร์,เชอริว โครว,จีวล์และโจนี่ มิทเชล ถามความเห็นส่วนตัวของดิฉันเหรอ? ก็บอกเลยว่า ชอบมาก!!! ชอบถึงขั้นที่ใส่พานและมอบเลข5ให้โดยไม่คิดหน้าคิดหลังทั้งที่จริงแล้วเรตอัลบั้มประมาณนี้เต็มที่ก็แค่สามดาวครึ่งสำหรับนักวิจารณ์ที่เขาเขี้ยวลากดินและยุติธรรมจริงๆแต่อย่างที่รู้กันนะคะว่ากับดิฉันท่านอย่ามาเอาอะไรก็มาเพราะนอกจากจะแพ้เมโลดี้ไพเราะเพราะพริ้งยกอัลบั้มของผลงานชุดนี้ที่มีให้เลือกสรรตั้งแต่งานโฟล์คร็อคเพราะๆอย่าง Love Me Like That ที่ร่วมงานกับเชอริว โครวและซิงเกิ้ลสุดติดหูอย่าง Breathe แล้วจะขยับไปสายอัลเทอเกรี้ยวกราดหม่นหมองอย่าง Are You Happy Now? เพลงเก่งก็ถึงใจไปยันงานเหงาๆเศร้าๆฟังแล้วโศกสลดซึมกระทือโทนเดียวกับหน้าปกอัลบั้มอย่าง One Of These Days และ Til I Get Over You ก็เชื่อว่าจะสามารถสะกดผู้ฟังให้หลงรักได้อย่างแน่นอน
ถึงกระนั้นก็หาใช่แค่เพียงความไพเราะติดหูเท่านั้นที่เอาชนะใจดิฉันจนผลงานอัลบั้มนี้ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ ทรงอิทธิพล ที่สุดชุดหนึ่งเท่าที่ชีวิตนี้ได้เคยสัมผัสมา แต่เป็นเพราะว่าHotel Paperชุดนี้มีวิญญาณบางอย่างในตัวของมันที่มันขับขานกับวิญญาณในตัวของดิฉันด้วยความทรงพลังของสาส์นจากเนื้อหารวมถึงทุกสิ่งที่มิเชลระเบิดมันออกมาในผลงานชุดนี้มันกระแทกเข้ากลางใจของดิฉันอย่างจังในวินาทีนั้น - วินาทีแรกที่ได้สัมผัสเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว - จนกลายเป็นหนึ่งในงานดนตรีที่ผูกพันที่สุดมาจวบจนทุกวินาทีนี้ เดือนหน้า กรกฎาคม 2014 พบกับ5เพลงจากอัลบั้มHotel Paperที่บ.ก.เพจHysteriaโปรดปรานทั้งสุดตลอดทั้งเดือนของธีม Ravenio + Excessum



