
ออกตัวก่อนว่าไม่ปลื้มซักเท่าไหร่หรอก สำหรับเกมส์ล่าเกมส์ภาคแรก ที่เนื้อเรื่องเกี่ยวกับชะนีและผู้ชายถูกส่งให้ไปฆ่ากับคนอื่น เนื่องด้วยปัจจัยหลายๆอยาก ทำให้ยามที่ข่าวคราวว่า "ปีกแห่งไฟ" จะฉายปีนี้ถูกดิชั้นมองข้าม แต่แล้วเพลงประกอบหนังอันแสนสุดจะไพเราะ ไม่ว่าจะเป็นของอิติ๊ Coldplay , SIA แต่ไม่รวมอี(หอย)หลอด ทำให้ดิชั้นเกิดอาการ อยากดูถึงขั้นเลือดกำเดาไหล นั่งรออย่างใจจดใจจ่อ พร้อมกันฟังซาวแทรคไปด้วย รัวๆ

.... และแล้วก็ถึงวินาทีที่รอคอย ดิชั้นซื้อบัตรปุ๊ป ก็เข้าไปนั่งดู หนังเรื่องนี้มีความยาวถึงสองชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียว เปิดตัวด้วยฉากที่เห็นกันในไทรล์เลอร์ พร้อมกับปูเรื่องราวให้พอมีที่มาที่ไป อธิบาย สร้างบุคลิกตัวละคร รวมถึงสาเหตุของการเกิด Catching fire ภาคนี้ หนังดำเนินเรื่องได้น่าติดตามมาก โดยไม่มีคำว่า "อืด" เลยแม้แต่น้อย อีกด้านนึงก็คือบางฉาก ออกจะรวบรัดไปซักนิด น่าจะหยุดรอให้นักแสดงแผลงความสามารถกันมากกว่านี้

พูดถึงเรื่องนักแสดง ทุกคนสามารถทำหน้าที่ได้แจ๋วมากๆ โดยเฉพาะบทตัวเสริมที่กลายมาเป็นมีบทบาทอย่างมาก แม้ว่าหนังจะเป็นดราม่า แอคชั่น เน้นกดดันกันที่อารมรณ์ แต่ตัวละครหาได้แสดงออกที่น้ำตานองหน้าแสนปัญญาอ่อนไม่ เอาเป็นว่าต้องไปดู ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า อารมณ์ที้นักแสดงบางคนยังเข้าไม่ถึง คือความ "เครียด" ที่ปะปนอยู่กับความโกรธและเศร้า คือแบบ มันน่าจะมีอะไรมากกว่า น้ำตาคลอ เม้มปาก แล้วมือสั่นนะ

ขอชมหนังเรื่องนี้อีกอย่าง ที่สร้างตามรอยหนังสือมาเป๊ะ เลยไม่ต้องมาหงุดหงิดอารมณ์ว่า"มึงจะเปลี่ยนบททำไมฟระ" หนังแบ่ง ดราม่า แอคชั่น แทรกคอมเมดี้เล็กๆ ไว้พอดี พล๊อตเรื่องซับซ้อนบ้างแต่ก็ทำความเข้าใจได้ ไม่ต้องมานั่งครุ่นคิดให้ปวดกะโหลกแบบหนังเกรด A เรตติ้งร้อยลานพวกนั้น แต่ถึงดูเผินๆจะเรียบง่าย แต่ก็มีหลายอย่างที่ทำเอาเรา คาดไม่ถึง ตะลึง พลิกล๊อก ไปเหมือนกัน - กลับมามีโปรดักชั่นฉาก คงไม่ต้องพูดถึง เมื่อเทียบกับภาคที่แล้ว ทั้งพลังของตัวละคร - บท - สถาณที่ถ่ายทำ ชนะขาดลอย ภาคนี้มีสถาณที่ใหม่เยอะมาก ไปจนถึงความสมจริงที่มากขึ้นเยอะเลยทีเดียว บางอย่างก็คงความเว่อร์ไว้เหมือนเดิม แต่ก็ไม่ใช่จุดด้อยใหญ่โตอะไร
ถ้าถามว่าอินกับบเรื่องนี้ไหม ตอบเลยว่า "มากกกก" เราคิดว่าหนังเรื่องนี้เอาคนดูอยู่เลยทีเดียว แถมยังสามารถโน้มน้าวให้ผู้รับชมเกิดอารมณ์ร่วมได้ และอีกเรื่องก็คือ อีพุซซี่มันไม่รู้หรอกค่ะ ว่าคำคม คำขวัญ คำสอน ห่าเหวอะไรมันจะแทรกมาส่วนไหนของหนัก เพราะงั้นไม่ต้องมาถาม ชั้นดูแค่สนุกๆ แถมข้อคิดเล้กน้อยก็พอและ จะให้ยำพระคัมภีร์ ภาษิตจีน คำขวัญห้าร้อยชนชาติใส่หนังมาแบบ TDK , LOP ก็คงขอเซย์โน

ไม่อยากจะโพสต์อะไรมาก เดี๋ยวจะกลายเป็นสปอยล์ เอาเป็นว่า ถ้ามีตังก์ก็ไปดูเถอะค่ะ รับรองคุ้มค่าแน่นอน ดูในโรงนี่แหละ สะใจนัก หนังยิ่งใหญ่สมจริงมาก อ๋อ แฟนคลับอีติ๊ที่คิดจะเข้าไปฟังเพลงเพราะก็เตรียมตัวผิดหวังคร่ะ เพราะดูจนหนังจบ(ไม่รวมเครดิต) ยังไม่มีวี่แววของอีติ๊เลย จะมีก็แต่ Atlas ของโคลเพลย์ที่แย่งซีนเต็มๆ - สำหรับมุมกล้องคราวนี้รับรองว่าไม่มึนหัวแบบรอบที่แล้วแน่นอน คุณจะสัมผัสได้ถึงคำว่า เกมส์ ล่าเกมส์ อย่างแท้จริงและยามนั้น คุณอาจจะอยากอาสาไปอยู่เคียงข้าง แคสนิส เลยก็ได้นะ ...

อุ๊ป เกือบลืม กระซิบว่า haute couture ของเรื่องนี้เริ่ศสะเมนแตนมากคร่ะ โดยเฉพาะชุดผีเสื้อของแมคควีน เห็นแล้วเพื้อฝันเลย ฮ่าา
ปล. หนังมีอะไรเยอะกว่า trailer มากๆ ฉนั้น ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนตัวอย่างหลอกนะคะ คุ้มแน่ ! และก็ดูให้ดีๆนะ .... ว่าใครคือศัตรูที่แท้จริง