˹���á Forward Magazine

ตอบ

เตรียมพบคอนเสิร์ตแรกในไทย เกิร์ลกรุ๊ปสุดเกรียน Crayon Pop
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ เตรียมพบคอนเสิร์ตแรกในไทย เกิร์ลกรุ๊ปสุดเกรียน Crayon Pop 


เตรียมตัวจัมพ์ปิ้งพร้อมกัน กับคอนเสิร์ตแรกในไทย ของ เกิร์ลกรุ๊ปสุดเกรียน Crayon Pop เพื่อรณรงค์ให้เด็กๆสวมหมวกกันน็อค

เกิร์ลกรุ๊ปจากเกาหลี Crayon Pop ที่เพลงฮิตท่าเต้นสุดเพี้ยนอย่าง Bar Bar Bar ของพวกเธอกลายเป็นคลิปสุดฮอตบน Youtube สร้างชื่อจนโด่งดังเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก เตรียมเดิมทางมาประเทศไทย
เป็นครั้งแรกเพื่อแสดง mini concert เปิดตัวโครงการ The 7% Project รณรงค์ให้เด็กไทยสวมหมวกกันน็อคก่อนซ้อนมอเตอร์ไซค์ จัดโดย องค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) และ มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย (Asia Injury Prevention Foundation - AIP) ในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้

Crayon Pop กล่าวผ่านหน้าเว็บ www.7-percent.org ว่า รู้สึกดีใจมากที่จะได้มาประเทศไทย และได้มีส่วนร่วมสนับสนุนโครงการดีๆแบบนี้ พร้อมทั้งกล่าวเชิญชวนให้แฟนๆทุกคนมาร่วมชมการแสดงของพวกเธอและให้ทุกคนมาพร้อมกับหมวกกันน็อคสุดเจ๋งของตัวเอง เพื่อเตรียมเต้น Bar Bar Bar ไปด้วยกัน

ด้วยท่าเต้นที่ทะเล้นสนุกสนานไม่เหมือนใคร ทำให้ Crayon Pop กลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่มาแรงที่สุดในวงการ K-Pop จนล่าสุด เลดี้ กาก้า ออกปากชวนร่วมทัวร์อเมริกาด้วยกันมาแล้ว พวกเธอจะขึ้นแสดงพร้อมสวมหมวกกันน็อคคู่ใจเสมอจนเกิดกระแสหมวกกันน็อคฟีเวอร์ เมื่อในปีที่ผ่านมา มีคนอัพโหลดการเต้น “คัฟเวอร์แดนซ์” เพลง Bar Bar Bar กว่าล้านคนผ่าน Youtube

“รู้สึกดีใจและตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ Crayon Pop จะเดินทางมาประเทศไทยเพื่อร่วมรณรงค์ให้เด็กๆ สวมหมวกกันน็อค” อลิสัน เซลโควิทซ์ ผู้อำนวยการองค์การช่วยเหลือเด็กประจำประเทศไทยกล่าว

“ประเทศไทยมีถนนที่อันตรายเป็นอันดับสองของโลก ทุกปีมีเด็กเสียชีวิตกว่า 2,600คน และอีกกว่า 72,000 คนได้รับบาดเจ็บ แต่กลับมีเด็กเพียง 7% เท่านั้นที่สวมหมวกกันน็อคซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ เราจึงต้องการให้โครงการนี้เป็นจุดเริ่มของการเปลี่ยนแปลง โดยให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อช่วยกันดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของเด็กๆ”

ด้านนางรัตนวดี เหมนิธิ วินเธอร์ ผู้อำนวยการประเทศไทย มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย (AIP Foundation) กล่าวว่า “จากประสบการณ์ทำงานกว่า 15 ปีของเอไอพีในการดำเนินโครงการด้านความปลอดภัยบนท้องถนนไปทั่วโลก พบว่าเส้นทางที่เด็กใช้บ่อยที่สุด คือจากบ้านไปโรงเรียน และเส้นทางดังกล่าวก็เป็นเส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุกับเด็กๆมากที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย เราจึงวางแผนทำงานร่วมกับโรงเรียนและครอบครัว เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ที่ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของการใส่หมวกกันน็อค”

รายละเอียดงาน
ชื่องาน: The 7% Project Presents หมวกน้องซ้อนต้องใส่
สถานที่: หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
วันที่: 23 พย. 2557
รายละเอียดศิลปินไทยที่จะเข้าร่วมงานทั้งหมดจะแจ้งให้ทราบในเดือน พย. โดยจะมีงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 พย. 2557

ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและร่วมกิจกรรมได้ผ่านทาง
hashtag #helmetpop
https://www.facebook.com/7percent.org
https://twitter.com/7percentorg
http://instagram.com/7percentorg

รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ

ทุกวันน้องๆ วัยเรียนราว 18 ล้านคนเดินทางโดยการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ แต่มีเพียง 7% เท่านั้น ที่สวมหมวกกันน็อค แม้ว่าจะมีกฎหมายบังคับใช้ แต่ด้วยความคิดที่ว่า “โรงเรียนอยู่ใกล้ๆ ไม่เป็นไรหรอก” หรือ “ใส่แล้วรำคาญ” การเดินทางบนท้องถนนจึงกลายเป็นสาเหตุ อันดับ 1 ของการบาดเจ็บและเสียชีวิตของเด็กในประเทศไทย โดยในแต่ละวัน มีเด็กกว่า 200 คน ได้รับบาดเจ็บ และ 7 คนเสียชีวิต

เพราะความสูญเสียเหล่านี้สามารถป้องกันได้ เพียงแค่ให้เด็กสวมหมวกกันน็อค เครือข่ายองค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านคุ้มครองเด็กและป้องกันอุบัติภัยบนท้องถนน นำโดยมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย (Asia Injury Prevention Foundation – AIP) และองค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) ได้ร่วมมือกันริเริ่มโครงการรณรงค์ให้เด็กๆ ที่เดินทางด้วยการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์สวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง ภายใต้ชื่อโครงการ The 7% Project

เนื่องจากการเดินทางจากบ้านไปกลับโรงเรียนคือเส้นทางหลักสำหรับครอบครัวในแตล่ะวัน ในปีนี้จึงเริ่มต้นการทำงานร่วมกับโรงเรียนประถมศีกษาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นอันดับแรกเพื่อรณรงค์ให้หมวกกันน็อคกลายเป็นส่วนหนึ่งของชุดนักเรียนโดยจะทำงานร่วมกับชุมชน เด็กๆ ผู้ปกครอง ครู และประชาชนทั่วไปที่สนใจ เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์วัฒนธรรมความปลอดภัย

ในปีต่อๆ ไปโครงการนี้จะขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆทั่วประเทศ พร้อมกับขยายขอบข่ายการร่วมงานกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อเพิ่มการรณรงค์ให้ครอบคลุมทุกเส้นทางการเดินทางของเด็กๆ และตั้งเป้าเพิ่มอัตราการสวมหมวกนิรภัยของเด็กจาก 7% ให้เป็น 60% ทั่วประเทศภายในปี 2560

เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง The 7% Project จะดำเนินงานควบคู่กันใน 4 ด้าน ได้แก่

การศึกษา – เสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้และประโยชน์ของหมวกกันน็อค ทั้งในวิชาพื้นฐานและกิจกรรมนอกหลักสูตร จัดอบรมสำหรับคุณครูและผู้ปกครอง เพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงผลกระทบของอุบัติเหตุ

การสื่อสารกับมวลชน – จุดประกายความคิด จัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ และรายงานทุกความเคลื่อนไหวของโครงการ ตลอดจนเปิดให้ทุกฝ่ายร่วมกันผลักดันการรณรงค์ให้ไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ยั่งยืน

การบังคับใช้ – ร่วมมือกับโรงเรียนในการออกกฎให้เด็กที่เดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ต้องสวมหมวกกันน็อค และขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการผลักดันกฎหมายหมวกกันน็อค ให้มีผลบังคับใช้ครอบคลุมทุกเส้นทาง

การสร้างนวัตกรรม – จัดหาหมวกกันน็อคที่มีดีไซน์โดนใจเด็กและวัยรุ่น มีขนาดที่พอดีกับศีรษะ และราคาไม่แพง รวมทั้งเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้แสดงตัวตนของพวกเขาผ่านหมวกกันน็อค






แก้ไขล่าสุดโดย FF_Staff เมื่อ Mon Oct 27, 2014 10:19 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง

_________________

Like กดที่รูป
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ซูเปอร์สตาร์ระดับโลกเลยหรอคร้ะ


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com