˹���á Forward Magazine

ตอบ

Kara – Day & Night By Hysteria
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ Kara – Day & Night By Hysteria 


http://www.facebook.com/hysteriaculture

http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/08/21/kara-day-night-by-hysteria/

บ.ก.เพจ – – 74% = 3.5/5 (C+)

นับว่าเป็นมรสุมระลอกใหญ่ทีเดียวสำหรับเกิร์ลกรุ๊ปนางฟ้าระดับแถวหน้าของเกาหลีใต้อย่าง “Kara” และเหล่าสาวกคามิเลียทั่วทั้งโลกที่ติดตามรักใคร่หอบหิ้วกันมานานเมื่อเมนหลักของวงอย่าง “นิโคล” ที่มีีความโดดเด่นทั้งการแร็พ,การร้องรวมถึงพลังบนเวทีและน้องนุชสุดท้อง “จียอง” มักเน่คนสวยที่ฉายแววความงามขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกับความสามารถที่ดูจะแพรวพราวขึ้นจนน่าตกใจได้ตัดสินใจตบเท้าเดินออกจากวงเหลือไว้เพียงความสั่นคลอนและอนาคตที่ไม่แน่นอนของคาร่าว่าจะเดินเกมส์บนอุตสาหกรรมบันเทิงต่อไปอย่างไร

เอาจริงๆแล้วพวกนางฟ้าใช่ว่าจะไม่เคยผ่านวิกฤตินี้มาเพราะก่อนหน้าที่จะกลับมาผงาดในวงการอีกครั้งกับความสำเร็จจากเพลง “Honey” ทางวงก็ต้องพบกับการเปลี่ยนตัวของสมาชิกออริจินัลอย่าง “ซองฮี” ที่เป็นเมนโวคอลของวงในช่วงเดบิ้วท์มาก่อนแล้วซึ่งเหตุการณ์นี้้ก็ดูเหมือนจะเป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเพื่อคัดกรองคามิเลียที่แท้จริงอีกครั้งว่าคุณรักคาร่าที่ความเป็นวงหรือรักแค่เพียงตัวตนของสมาชิกคนใดคนหนึ่งในวงแค่นั้น

ณ ขณะนี้ไม่ขอฟันธงว่ารอดหรือไม่สำหรับคาร่าที่ไร้นิโคลและจียองแม้ส่วนตัวดิฉันจะรู้สึกว่าพวกเธอเหลือกันแค่สามคนน่าจะดีกว่าก็ตามแต่ก็คงจะดูใจแคบถ้าไม่ให้เวลาและโอกาส “ยองจี” สมาชิกใหม่จากสมรภูมิ “Baby Kara” พิสูจน์ตัวเองว่าจะทำได้ดีแค่ไหนในฐานะสมาชิกน้องใหม่ของวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ประสบความสำเร็จที่สุดวงหนึ่งของเกาหลีใต้และเอาชนะใจแฟนเพลงได้มากน้อยแค่ไหนในระยะยาว ถึงกระนั้นดูจากบทบาทในการเปิดตัวฐานะสมาชิกวงคาร่าแล้วจากใจตอนนี้ไม่คิดว่าน้องโดดเด่นพอเมื่อเทียบกับพลังของคูฮาร่าหรือจียองตอนเปิดตัว

ในเรื่องเพลงคงไม่ปฏิเสธถ้าจะบอกว่าส่วนตัวคาดหวังที่จะได้เห็นอิมเมจใหม่ทั้งทางดนตรีและภาพลักษณ์ของทางวงแต่เมื่อได้ฟัง Mamma Mia (3.5/5) ซิงเกิ้ลเปิดตัวแล้วแม้จะไม่ได้ผิดหวังแต่ก็ไม่ได้ประทับใจเรียกได้ว่าเฉยๆมากกว่าแต่อย่างน้อยคาร่าก็ยังคงเป็นคาร่าฉบับที่ทุกคนรักเช่นเดินภายใต้งานเพลงพ็อพเต้นรำสดใสติดบีทอัพเทมโปเป็นฟั้งค์กี้ย์ดิสโก้70sเรโทรกระจายอารมณ์แบบที่ใครชอบเพลงที่ตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นอายย้อนยุคอย่างStepในภาคที่ต่อยอดร่วมกับPandoraด้วยก็น่าจะถูกใจกันได้ไม่ยาก ฟังนานๆไปชักติดหูหนึบถึงขั้นหลอนแต่ถ้าเทียบกับมาตรฐานงานเปิดตัวของคาร่าก็นับว่ายังจืดจาง (ถึงกระนั้นถ้าเปรียบเทียบกับวงใหญ่ๆอย่าง SNSD และ Sistar ส่วนตัวยังคิดว่าคาร่ายังมีงานคัมแบ็คที่เข้าหูกว่ามาก)

ที่เซอร์ไพร์สเห็นจะเป็น Live (4/5) เพลงเปิดอัลบั้มที่ได้แรงบันดาลใจมาจากดนตรีบรอดเวย์กับชั้นเชิงการเรียบเรียงตามขนบของงานมิวสิคคัลที่โดดเด่นรสชาติของดนตรีสแตนดาร์ดแจ๊ซซ์และคาบาเร่ต์แจ๊ซซ ์นับว่าแตกต่างไปจากคาร่าที่คาดหวังอย่างน่ายินดี ในขณะที่ So Good (4/5) ที่ผสานเอาวัฒนธรรมของดนตรีอาร์แอนด์บีหลังยุคคอนเทมโพรารีย์อาร์แอนด์บีร่วมสมัยมีทั้งซาวนด์สแครชฟืดฟาด,แร็พเปรี้ยวๆยันความสดใสแบบเคพ็อพพุ่งเข้าชนกับจิตวิญญาณโอลด์สคูลที่มีทั้งแจ๊ซซ์,บลูส์จวบจนโซลโมทาวน์ เอ่อ จะฟังให้สดใสก็ได้ปล่อยของก็ได้นะ 24/7 (3/5) อะไรนี่ – – อ่านชื่อเกาหลีไม่ออกนะคะขอโทษที – – ก็กลับไปเป็นงานบับเบิ้ลกัมพ็อพหวานใสแบบคาร่าที่ชาวเคพ็อพหลงใหลแต่ก็ยังคุมธีมบนการผสานซาวนด์ของดนตรีย้อนยุคตามคอนเส็ปท์อัลบั้มได้ไม่มีหลุดคอนเส็ปท์ ช่วงท่อนแร็พฟังแล้วก็อดนึกไม่ได้ว่าถ้าได้นิโคลมาแร็พเพลงมันจะดีกว่านี้ขนาดไหนหนอ ส่วนเพลงถัดไปนี่เอามาฟังฆ่าเวลาสำหรับคนชอบงานเคพ็อพสูตรสำเร็จเพราะๆหวานๆแบบสมัยช่วงPretty Girlยันอัลบั้มRevolutionถึงไม่หลุดจากธรรมเนียมเดิมของทีนพ็อพแต่ก็ไม่ใช่งานเผาลวกๆแน่นอนให้3คะแนน สำหรับของขวัญที่คามิเลียน่าจะประทับใจคงหนีไม่พ้นบัลลาดเพราะๆส่งท้ายอัลบั้มซึ่งฟังคาร่ามาทุกอัลบั้มก็ไม่เห็นเคยได้ยินเพลงช้าเพลงไหนกรีดใจและเศร้าสลดเจียนจะขาดใจเท่าเพลงนี้เลยจริงๆแถมขุดกลเม็ดเด็ดพรายมาทุกมุข ฟังแล้วรู้เลยว่าพวกเธอตั้งใจจะปั้นเพลงนี้ให้ออกมาดีที่สุดให้4.5คะแนนไปเลย

อาจริงๆแล้วไม่เข้าใจว่า “Day&Night” นี่พวกนางจะสื่อถึงอะไรกันแน่ธีมในภาคดนตรีชัดแต่ไทเทิ่ลนี่ส่วนตัวยังตีโจทย์พวกนางไม่แตกเท่าไรแต่จะว่าไปนี่ก็เป็นอัลบั้มเคพ็อพที่ฟังได้ทั่งคืนทั้งวันเช่นเดียวกับที่คาร่าก็ยังคงเป็นนางฟ้าของเหล่าคามิเลียเป็นคาร่าแบบที่เป็นคาร่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไรก็ตามกระมัง ความสดใสแบบที่แฟนๆรักยังคงมีอยู่แม้จะโตขึ้นแต่งานเพลงก็ยังคงหวานหูเป็นมิตรต่อผู้ฟังเช่นเคย – – ถ้าใครสักคนในวงคิดได้ช่วยตบกะโหลกประธานค่ายDSPแรงๆทีเถิดว่า “มันเริ่มส่อเค้าลางไปไม่รอดละ” น้องใหม่ที่เข้ามาแอ๊บไหวแต่สามแก่ในวงเริ่มจะกลายเป็นสนิมจับแล้ว คนเปลี่ยนแล้วก็กล้าที่จะเปลี่ยนอิมเมจซะบ้างก่อนความแอ๊บแบ๊วสดใสอาโนเนะจะกลายเป็นทุเรศทุรัง

@พารา : 3.5/5

อย่างที่คุณ บ.ก. ได้บอกกล่าวนำความกันไปแล้วว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่แสกนหาแฟนพันธุ์แท้ที่ยังพร้อมสนับสนุน “Kara” ในยุคใหม่ รวมถึงหาแฟนเพลงใหม่ ที่ต้องลงมาตบตีสมรภูมิกับรุ่นน้องหลังจากที่สมาชิกคนเก่งอย่างนิโคลและจียองลาออกไป

เคยคุยกันกับคุณ บ.ก.ตั้งแต่สมัยเหลือ 3 คนแรก ๆ ว่าทิศทางของวงจะไปทางไหน ซึ่งก็เห็นพ้องต้องกันว่า “3 คน ก็เอาอยู่” เนื่องจากทักษะการร้อง แรพ และที่สำคัญเพอร์ฟอร์มของพวกเธอนั้นจัดได้ว่าฉกาจเอาการ ด้วยประสบการณ์ที่ลงทุนบินไปก็บเกี่ยวที่ญี่ปุ่นจนสร้างรากฐานแฟนคลับได้เหนียวแน่น แต่เมื่อทาง DSP ค่ายหลักของสาว ๆ ต้องการที่จะเพิ่มสมาชิก อนพวกเราเป็นแค่คนฟังเป็นแค่แฟนคลับคงทำอะไรไม่ได้

ภาพรวมสำหรับอัลบั้มแรกในไลน์อัพที่ 3 (กยูริ/ซึงยอน/ฮาร่า และสมาชิกน้องใหม่อย่างยองจี) โดยรวมแล้วยังคงซิกเนเจอร์ความเป็น Kara ไว้สูงโด่งจนแอบตกใจว่า Duble Sidekick มาทำให้ เพราะเนื้องานแทบไม่ต่างจากโปรดิวเซอร์คู่บารมีอย่าง Sweetune (ที่คงโกรธ DSP ไม่น้อยเลยไม่ทำเพลงต่อให้ ถึงกับเคยประกาศว่าถ้า Kara ไม่ใช่ 5 คน จะไม่ร่วมงานกับพวกเธอ เพราะนั่นไม่ใช่ Kara)

อัลบั้มนี้ ตัวเพลงยังคงยืนพื้นด้วยความเป็นป๊อปแดนซ์ตามสไตล์ K-pop ที่หยิบเอาเรโทรแบบน่ารัก ๆ มาเล่น ต่างจาก T-ara ที่หยิบมาเล่นแบบจัดจ้านชัดเจน กล่าวคือ Kara หยิบมาเล่นในมุมมองที่หวานมากกกก จริง ๆ ถามว่าการคงซิกเนเจอร์ของตัวเองก้เป็นเรื่องที่ดี แต่นั่นแหละ มันก็คือดาบสองคมดี ๆ นี่เอง โอเคว่าเพลงขึ้นมาเราจะระลึกโดยออโต้ว่านี่ Kara แต่กลับกันบางคนก็อาจจะมองว่า “ก็มาเดิม ๆ อีกนั่นละ”

แม้ว่าอยากจะด่าและเอาระเบิดไปปา DSP มากแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องขอชื่นชมคือ “ทำเพลงทั้งอัลบั้มออกมาเป็นเอกภาพและฟังได้เรื่อย ๆ ไม่ได้เกาะกระแสแล้วจบ” คือทุกเพลงในอัลบั้มฟังแล้วรู้ว่าตั้งใจทำออกมา ไม่ได้ทำเพลงไตเติ้ลแรง ๆ เพียงเพลงเดียวและยัดเพลงแกน ๆ มาหลอกขายติ่ง ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ดีที่หาได้ค่อนข้างลำบากในไอดอลเกาหลียุคปัจจุบันจริง ๆ

แม้ว่าจะตื่นเต้นและว้าวกับ MV เอาซะมาก ๆ แต่ถ้าวัดระดับความประทับใจกับไตเติ้ลแท็ค Mamma Mia (3.5/5) ดูจะด้อยกว่าซิงเกิ้ลเปิดตัวของทุกชุดที่ผ่านมา (ยกเว้น Damaged Lady) เพลงห่วยกว่าซิงเกิ้ลเปิดตัวเพลงอื่นหรือ ? เปล่าเลย ตัวเพลงเป็นป๊อปแดนซ์ตบด้วยดิสโก้ฟังก์พร้อมหยอดลูกเล่นร็อค ๆ ด้วยเสียงเบสและไลน์เพลงที่เร้าใจแบบที่เคยทำใน Pandora และ Damaged Lady มาแล้ว

เนื้องานดูโอเคกว่า Jumping และ Wanna แน่นอน แต่ถามว่าพลังและสเน่ห์ในความเป็น Kara นั้นดรอปลงมาก คือปฏิเสธไม่ได้ว่าน้อง “ยองจี” สมาชิกใหม่นั้น ยังไม่ฉายแววเท่าไหร่นัก จนพาลคิดไปว่าถ้าเพลงนี้มีนิโคลและจียองมาแรพคงจะไปได้สวยกว่านี้มาก (ยิ่งพอไปดูเอ็มวีและเพอร์ฟอร์มแล้วคุณน้องไม่ฉายแววใด ๆ ทั้งสิ้นจริง ๆ ยกเว้นหน้าตาและลุ๊คที่ดู Kara มาก ๆ)

มาดูที่แทร็คอื่นในอัลบั้ม เริ่มจากเพลงที่จับตามองตั้งแต่พรีวิวอย่าง Live (4.5/5) ที่รู้สึกถูกชะตามาก และเมื่อมาฟังเพลงเต็มยิ่งชอบเอาซะมาก ๆ เปิดเพลงมาด้วยการประสานเสียงอแคปเปล่า ก่อนที่จะปูเข้าความเป็นป๊อปแจ๊ซที่นำเสนอในรูปแบบบรอดเวย์ ฟังแล้วปลื้มนะ คือเราค่อนข้างจะคุ้นเคยกับ Kara ที่หยิบแจ๊ซมาเล่นกันบ้างอยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยนำเสนอในรูปแบบบรอดเวย์ ซึ่งการลองครั้งนี้ถือว่าสอบผ่านเอามาก (อัลบั้มหน้าเชียร์แบบเพลงนี้ไปเลย ในการนี้ที่ถ้าขายแบบไอดอลไม่ออกแล้วจริง ๆ ทำเพลงเจ๋ง ๆ ขายไปเลย ไหน ๆ ก็เคยจะก้าวข้ามไปเป็นศิลปินกันอยู่มะรอมมะร่อกันอยู่แล้ว)

จากแทร็คที่จับตามองตั้งแต่พรีวิว มาที่แทร็คที่ส่วนตัวแอบยี้นิด ๆ ตอนพรีวิวกันบ้างอย่าง So Good (3.5/5) เป็นการชนกันระหว่างเคป๊อปสดใสน่ารักกับความเป็นโมทาวน์ คืออกมาดีกว่าที่คิดนะ แต่เกลียดท่อน บิงกาบิงกาบิง ซ้ำ ๆ นั้นอย่างบอกไม่ถูก Melancholy (24/7) (3/5) เพลงสไตล์ Kara จ๋ามาก ๆๆๆๆๆๆ คือถ้าคุณเป็น Kamillia ตัวจริงเสียงจริง เชื่อว่าจะชอบเพลงนี้อย่างแน่นอน

และตามธรรมเนียม Kara ในอัลบั้มต้องมีเพลงช้า ๆ เพราะ ๆ มาห้เราฟังกัน Red Light (3.5/5) คอนเทมโปลารี่ป๊อปอาร์แอนด์บีตามธรรมเนียมนิยม แต่ว่าไม่ได้นะใช่ว่าเป็นธรรมเนียมนิยมแล้วจะโอเคกับจริตทุกวง แต่สำหรับ Kara แล้วมันใช่มาก ปิดท้าย EP ชุดนี้ด้วย Story (5/5) จะเรียกว่าปล่อยของก็ไม่ผิด เพราะเพลงนี้ทั้ง กยูริ ซึงยอนและฮาร่าร่วมกันจรดปากกาแต่งออกมา ตัวเพลงเป็นป๊อปโฟล์คเจืออาร์แอนด์บีบาง ๆ เนื้อหาเกี่ยวกับความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน และความเสียใจที่เกิดจากการจากลา ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการเขียนถึงสองน้อง “นิโคล” และ “จียอง” ที่พึ่งลาออกจากวงไปนั่นเอง ที่งัดทุกกลยุทธ์ออกมาถ่ายทอดอารมณ์ได้เศร้าแหวกดนตรีที่เจือความหวานมา เป็นอารมณ์หวานอมขมกลืนของทั้งคนแต่งและ Kamilia จริง ๆ…

หลังจากที่ฟังอัลบั้มนี้จบ ในฐานะ Kamilia แล้วมีความคิดอะไรหลายอย่างผุดมาในหัวเยอะแยะมากมาย

เริ่มจากอนาคตและทิศทางของวงที่ตอนนี้รู้สึกว่าสาว ๆ ทีเ่หลือพยายามที่จะประคับประคองวงให้ไปถึงวันสุดท้าย ในขณะที่ DSP เองก็พยายามพยุง Kara ในฐานะ”หม้อข้าวใบเดียว”ของค่าย หลังจากที่ทุบไปแล้วหนึ่งครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าของที่แตกไปแล้วจะมาประกอบใหม่ มันยากนะ

เรื่องต่อมาคือสมาชิกน้องใหม่อย่าง “ยองจี” ที่เวลานี้หลายคนคงจะพอเห็นแล้วว่าน้องไม่สามารถที่จะดันตัวเองให้เฉิดฉายรัศมีออกมาได้ แม้ว่าจะพยายามแล้วก็ตาม การเพิ่มสมาชิกใหม่เข้ามาในวงที่สั่งสมบารมีมาถึง 7 ปี ผลที่ออกมาก็เป็นเช่นนี้แล แน่นอนว่ายองจีไม่ผิด ที่ยังม่สามารถส่องแสงออกมาปะทะกับพี่ ๆ ทำได้แต่เพียงกระพริบ ๆ เท่านั้น ซึ่งสาเหตุน่าจะอยู่ที่ช่องว่างระหว่างพี่ ๆ ทั้งสามคนและยองจีเอง

โอเคว่าพี่ ๆ รับได้กับการที่มีน้องยองจีเข้ามาอยู่ เทคแคร์ดูแลกัน แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือการเทคแคร์แบบน้องสาวคนหนึ่งไม่ใช่ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของ Kara พูดง่าย ๆ คือการรับยองจีเข้ามานั้นไม่ต่างจากสภาพจำยอม อยู่เฉย ๆ เสียคนสนิทไปสองคนที่อยู่ด้วยกันข้ามน้ำข้ามฝากมาเนิ่นนาน แต่จู่ ๆ มีสมาชิกใหม่เข้ามาแท็กมือแบบงง ๆ การจะทำใจยอมรับก็คงลำบากพอตัว ยิ่งได้ฟังเพลงสุดท้ายของอัลบั้มแล้วยิ่งรู้สึกได้ชัดเจนว่าที่ว่างในใจ Kara (กยุริ/ซึงยอน/ฮาร่า) ยังเก็บไว้ให้สมาชิกเก่า ในขณะที่แม้ว่าไม่ขับไล่สมาชิกใหม่และยินดีต้อนรับเข้ามา แต่เข้ามาในฐานะไม่ต่างจากแขกรับเชิญคนหนึ่งเท่านั้น เราคงต้องดูกันต่อไปว่าอนาคตจะเป็นไรอย่างไร Kara และ Kamilia จะผ่านพ้นมรสุมครั้งใหญ่ลูกนี้ไปได้แค่ไหน…




ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com