Main :: อ่าน - มาเล่าความจริงเกี่ยวกับ Metallica และ Megadeth

[size=12] หลายคนอาจจะเคยฟังหรือไม่เคยฟัง ฟังในตำนาน 2 วงนี้นะครับ 1 ใน Big 4 ของ วงการ
แทรช เมทัลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือ metallica ส่วนวงที่เป็นคู่กัดกันมาตลอดจนปัจจุบัน ก็คือ megadeth ทั้ง 2 วงนี้มีอะไรหลายอย่างที่เหมือนและต่างกันมากพอๆกัน [/size]

กระผมได้ดูมาแล้วหลายเว็ปเห็นคนนำเอาประวัติ metallica แบบ ผิดๆมาโพสไว้เยอะ ขอบอกได้คำเดียวว่า ไม่สบายตาเลยครับ เมื่อไปอ่าน เหมือนดูเด็กเขียนบทความไร้สาระให้อ่าน

วันนี้ผมจะขอมาบอกถึง ความจริงของทั้ง 2 วงนี้

- metallica เป็น วง thrash metal ที่โด่งดังมากที่สุด ก่อตั้ง จริงๆเมื่อ 1981 โดยมี สมาชิก
ตามที่ ในเว็ปบางเวปบอกกันผมไม่เถียง..ออก demo อัลบัมแรกคือ no life till leather ซึ่ง
สมาชิกใน demo ชุดนี้คือ jame hetfield , lars ulrich, Ron McGovney และ dave mustaine
กลายเป็นรู้กันอยู่ว่า นี่คือ ราชาแห่งดนตรี...ในทางกลับกัน คอนเสิร์ทครั้งแรกของ demo ชุดนี้ไม่สวยหรู้นัก เพราะ ว่า jame hetfield ยังเล่นกีต้าร์ไม่แข็งนัก ทำให้ไม่สามารถเล่น และ ร้องไปพร้อมๆกันได้ จึงกลายเป็นหน้าที่ของ เดฟ ในการเก็บกวาด

- หลังจากนั้น ron ได้ลาออก ไปทำให้ metallica ต้องหามือเบสใหม่มา นั่นคือ cliff buton
ทำให้มีการบันทึกเสียงครั้งใหม่กันอีก จากนั้นไม่นาน เดฟ มัสเตน ถูกไล่ออกจากวง
เพราะ สมาชิก ไม่ชอบในความอวดดี และ อาการติดยาของเขา ช่วงที่เดฟยังอยู่นั้น เขาจะเป็นคน
แต่ง riff และ จะใช้อารมณ์ส่วนตัว บวก กับ ยาในการแต่งเพลงทำให้ มีปัญหากับ เพื่อนรักอย่าง เจ
เจมส์บ่อย วินาที สุดท้ายที่เดฟ พูดภายใต้ชื่อ metallica คือ no second chance for me? และ จากนั้นก็ไม่มี เดฟ มัสเทน อีกต่อไป

- ไม่ใช่ปัญหา สำหรับเจ้าพ่อ metallica เขาต้องการหามือกีต้าร์คนใหม่ และ เพลง demoของ exodus ก็จุดประกายขึ้น เพลง imparer ซึ่งเป็นผลงานของ kirk ภายใต้ชื่อ exodus การไปดึงตัวเคิร์กมาจาก exodus นั้นเปรียบเสมือนการขโมยบางอย่าง ทำให้มีปัญหากันบ่อยครั้งสำหรับ 2 วงนี้
นี้ เคิร์กจาก เบย์ แอเรีย ได้นั่งรถตรงมาเพื่ออัด อัลบัม kill em' all โดยเล่นตามโน๊ต solo ที่เดฟเขียนทั้งสิ้น จากนั้น 1 อาทิตย์ kill em' all กูถูกส่งวางขายในท้องตลาด สร้างชื่อให้ kirk hammett ถานะมือกีต้าร์ที่เก่งกาจคนนึง โดยเจมส์ ออกมาบอกว่า เขาไม่เคยรู้ว่า เดฟ มีส่วนร่วมในวง metallica
และ ก็ไม่ต้องการรู้อีกด้วย แต่ในทางกลับกัน four horsemen, seekn' destroy, phantom lord, metal militia และ jump in the fire นั้น เป็น เครดิต ของ เดฟ ทั้งสิ้นโดย เฉพาะ โชโล่ของ four horsemen oน เดฟเป็นผู้แต่งเพียงผู้เดียวจึงสามารถใช้ชื่อเก่าคือ the mechanix ได้และสังเกตุว่า
เมื่อไรที่เพลงนี้ถูก set list ใน คอนเสิร์ท ของ metallica จะเล่นไม่ตามต้นฉบับคือ ไม่มี solo กลาง

- สำหรับ megadeth
- ก่อตั้งหลัง metallica 3 ปีคือ 1984 หลังจากเดฟ ใต้ ยินเพลงของตนเองถูกเล่นจนทนไม่ไหว ต้องรวมวงขึ้นมา โดยออกอัลบัมแรก ที่ขึ้นชื่อว่า ระบบเสียงห่วยจนแทบจะไร้ค่าคือ killin is my business โดยทุกเพลงนั้นยังเป็น style การเล่น 100 เปอร์เซ็นของ metallica จนกลายเป็นว่า megadeth นั้นเรียนแบบขึ้นมา ทำให้ เดฟ เปรียบเสมือนกาฝาก ที่หลุดมาจาก metallica

- จากนั้นอีก 1 ปี peace sells ออกวางขาย ซึ่งทุกคนก็ได้รับรู้ว่า megadeth มี style การเล่นเป็นของ
ตนเอง ท่อน riff ที่ซับซ้อน ความกระด้างของดนตรี ความไม่ติดหู การที่ไม่มีท่อนฮุก ทำให้ megadeth ลือชื่อในด้านความยากของดนตรี แต่ก็ไม่วายยังถูกมองในแง่ลบว่า เป็นการคิดเอาชนะ metallica โดยการทำทุกอย่างให้ยากเข้าว่า แม้จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในยอดขาย เอามากๆ เนื่องจากออกภายในปีเดียวกับ master of puppets ของ metallica ทำให้ เครดิตของ เดฟ นั้นดับวูปลง

- อัลบัมที่ 3ในปี 1988 นั้นประสบความสำเร็จในระดับนึง ในขณะที่ ก่อนหน้านี้ 2 ปี metallica สูญเสีย cliff burton ไปจากอุบัติเหตุรถคว้ำ ทำให้เดฟ ได้แต่งเพลงไว้อาลัยขึ้นมาคือเพลง in my darkest hour ซึ่งกลายเป็น track ยอดนิยมไป ในปีต่อมา metallica ก็ออกอัลบัม JFA มาและก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรเพราะยอดขายนั้นพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก และ ยังเกินกว่า megadeth..so..far so good so what ไปหลายเท่านัก แต่เดฟ ก็ยังไม่ยอมแพ้ ดึงตัว marty friedman มาออกอัลบัม rust in peace
มาเป็นการประกาศศักดาเพราะยอดขายกว่า 1 ล้านแผ่นมากกว่า JFA ของ metallica เสียอีก

- metallica ได้ออกอัลบัม black album มาซึ่งดนตรีแทบไม่เหลือความเป็นแทรชเลย เนื่องจากย่างก้าวสู่ยุค 90 ดนตรีเริ่มลดหย่อนความหนักลง ทำให้ อัลบัมนี้ขายได้ดีสำหรับวัยรุ่นยุคนั้น แต่กลับ
ไม่โดยใจ แฟนเก่านัก

- megadeth - coundown to extinction ออกมาภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่เช่นกัน ดนตรีเริ่มติดหูและไม่ซับซ้อน แม่ยอดขาย 2 ล้านแผ่นจะยังไม่ถึง ค่อนของ metallica ก็ตาม แต่ก็พอถูไถ

- ตกม้าตาย เมื่อออกอัลบัม load / reload มาทำให้คนลืม metallica ออกไปจากบัลลังค์นี้
ขณะเดียวกัน youthanasia และ crytic writing กวาดยอดขาย ถล่มทลาย แม้จะสูญเสียความเป็น thrash ไปพอตัว ... ช่วงตกต่ำนั้น คงเป็นอัลบัมต่อมาคือ risk ทำให้ megadeth ลงไปนั่งยิ้มเป็นเพื่อน metallica เช่นกัน

- แต่มา megadeth ก็ออก TWNH แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ บวก กับอาการไม่สบายของเดฟ

- อวสาน megadeth ในปี 2001 ขณะที่ metallica นั้นใช้ตนเองเป็นหนูทดลอง nu-metal เราจึงเห็นสภาพ metallica ที่ตกต่ำสุดขีดใน st.anger ซึ่งพูดกันได้ว่า แย่จนแทบรับไม่ได้

- 2004 megadeth ได้ กลับมาพร้อมสมาชิกแปลกใหม่จนแทบจำไม่ได้..พร้อมอัลบัม the system has failed แต่ผลกลับตรงข้าม...ยอดขายทะลุจนต้องจัด world tour ขึ้น ต่อมาคือปี 2007

- united abomination พูดได้ว่า สุดยอดวง thrash กลับมาแล้ว โดยยอดขายใน america oนอยู่ที่อันดับ 4 และได้จัด world tour -นอีกครั้ง และ ได้แวะเวียนมา ประเทศไทยด้วย ใครไปดูจะรู้ถึงคุณภาพคับแก้ว และต้นปี 2008 นี้ ได้เปลี่ยนสมาชิกคือ มือกีต้าร์เป็น chris broderick และได้จัด gigantour อีกครั้ง ร่วมกับสุดยอดวงเมทัลซึ่งยังไม่เคยสัมผัสความล้มเหลวในยอดขายคือ overkill
ขณะนี้ dvd gigantour 2 ยังไม่เข้าไทย แต่สามารถสั่งจาก ร้าน boomerang ได้ คุณภาพคับแก้วเช่นกัน

- ขณะที่ metallica อัลบัมใหม่ จะออกขายในเดือน กันยา 2008 ถ้าไม่มีเหตุขัดข้อง
โดยช่วงนี้มี mp3 metallica ออกโพสตามในเวปว่าอัลบัมใหม่ 2008 แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ครับ
อัลบัมนี้ยังไม่มี track ไหนเล็ดลอด ออกมาให้ชาวโลกฟังเลยครับ

-----พอเข้าใจกันแล้วใช่ไหมครับ คราวนี้จะได้รู้ ดำ-แดง ไปสักที ว่า 2 วงนี้ทำไมจึงกลายเป็น คู่กัดกัน ----- อ่านแล้วฟังหูไว้หูนะครับ ผมอาจผิดพราดเนื่องจากฟังมาเพียง 6 ปีอาจยังรู้ไม่ชัดเจนนัก

ส่วนกระทู้หน้าคงเป็น ประวัติของ สุดยอดวงดนตรี แทรชอีกเช่นเคย อาจเป็น exodus หรือ
anthrax เพื่อนๆพี่น้อง คนไหนอยากทราบข้อมูลวงไหน ถ้าผมรู้จะบอกให้ฟังครับ ขอบคุณครับ

จาก Rattlehead ครับ

_________________
hello