˹���á Forward Magazine

ตอบ

สุสานนักเรียน ตอนที่3 เล่ม2 (2)
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ สุสานนักเรียน ตอนที่3 เล่ม2 (2) 


http://hysteriaculture.wordpress.com

hysteria

สุสานนักเรียน ตอนที่3 เรื่องเล่าสยองขวัญจากห้องน้ำนักเรียนชายที่ถูกปิดตาย เล่ม2 (2)

บทความ/นิยายในเพจ Hysteria นี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์ แก่ผู้เขียน “นายมัลนร ล้ำสกุลวงศ์” ( http://www.facebook.com/ArmandVladJekyllDangouleme8774 และเพจ http://www.facebook.com/hysteriaculture)เท่านั้น ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง คัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใด หรือนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต

“แต๊งค์กิ๊ว แต๊งค์กิ๊ว” มาลินร้องครวญคราง “คิรินทร์ คิรินทร์ครับ มิสรู้สึกตัวแล้ว” แอนดี้เขย่าตัวแฟนหนุ่มที่นอนหลับสนิทอยู่บนโซฟา “อย่าเพิ่งขยับตัวครับมิสคุณหมอใส่เฝือกคอไว้!!!” แอนดี้เข้าไปจับตัวมาลินให้นอนอยู่นิ่ง “แอนดี้ โอ๊ยๆ” มาลินพยายามจะเรียกลูกศิษย์แต่เธอก็รู้สึกเจ็บและร้าวไปทั้งตัวจนพูดอะไรไม่ออก “มิสครับอยากดื่มน้ำมั้ยครับ?” แอนดี้ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกในขณะที่มาลินพยักหน้าเพราะเธอรู้สึกคอแห้งเผือดจนต้องการน้ำสักแก้ว ในขณะที่แอนดี้รีบกระวีกระวาดเทน้ำดื่มให้กับครูประจำชั้นของเขาเด็กหนุ่มไม่ได้สังเกตุเห็นเลยว่าด้านหลังมาลินกำลังหน้าซีดเผือดและปากสั่นระริกด้วยความหวาดกลัวกับภาพตรงหน้าของคิรินทร์ที่เดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆเตียงของเธอ “แอนดี้ครับผมว่าแอนดี้ไปตามหมอดีกว่ามั้ยครับ เดี๋ยวทางนี้ผมจะป้อนน้ำมิสเอง” คิรินทร์คว้าแก้วน้ำมาจากมือของแฟนหนุ่มที่พยักหน้าแล้ววิ่งตรงออกไปตามหมออย่างว่าง่าย คิรินทร์กำแก้วน้ำในมือไว้แน่นจนมันเกือบร้าวก่อนจะหันมาประจันหน้ากับมาลินที่กำลังหลับตาสนิทพร้อมพยายามเบือนหน้าไปอีกทางด้วยความยากลำบาก “ไม่ต้องกลัวผมหรอกนะครับ ตอนนี้ผมทำอะไรมิสไม่ได้หรอกเพราะมันยังไม่ถึงเวลาของมิส ถ้าผมจะฆ่ามิสผมก็คงฆ่าไปตั้งแต่ที่ห้างแล้วไม่สิฆ่าตั้งแต่วันที่ผมตายไปแล้วต่างหาก!!!” คิรินทร์จับหน้าของมาลินหันมาทางเขาอย่างแรงพร้อมกับเอาแก้วน้ำกดเข้าไปที่ปากของเธอ “แดกเข้าไป!!! มึงจำไว้นะว่าทุกวันนี้กูเลี้ยงลูกมึงดีมากดีกว่าตอนที่มันยังเป็นคนอยู่กับมึงอีก กูเอ็นดูมันเหมือนน้องแท้ๆของกูแต่มึงอย่าให้กูทำกับมันเหมือนกับเด็กกับครูเซนต์มาบุสหลายๆคนที่กูฆ่าทิ้งก็แล้วกัน มึงจำไว้แอนดี้เป็นของกูๆจะเอาเขาไปเป็นของกู!!!” มาลินสำลักน้ำที่คิรินทร์กรอกผ่านปากเธอ “อ้าว มิสฟื้นแล้วเหรอคะคิรินทร์?” ดีไซน์ที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับฮาเวิร์ดถาม “ดีไซน์ครับมาช่วยผมประคองหัวมิสหน่อยสิครับ มิสดื่มน้ำไม่ได้เลย!” คิรินทร์แสร้งหันไปขอความช่วยเหลือดีไซน์ “อุ๊ย เอามานี่ค่ะ! ฮาเวิร์ดกับคิรินทร์ช่วยกันประคองคอมิสเบาๆนะคะเดี๋ยวดีไซน์ป้อนน้ำมิสเอง” เด็กทั้งสามคนช่วยกันประคองและป้อนน้ำมาลินที่กำลังปล่อยโฮออกมาด้วยความหวาดกลัว “มิสร้องไห้ทำไมครับ?” ฮาเวิร์ดถามด้วยความตกใจแต่มาลินดูเหมือนว่าจะไม่สามารถพูดโต้ตอบหรือเตือนลูกศิษย์ทั้งสองของเธอได้เธอได้แต่ร้องไห้แล้วพยายามจะดิ้นหนีจากตัวคิรินทร์ “หมอมาแล้วครับ อ้าวมิสเป็นอะไรอ่ะ?!!!” แอนดี้วิ่งเข้าไปดูอาการมาลินด้วยความตกใจ “คุณพยาบาลครับช่วยตามพยาบาลมาอีกสักสองสามคนมาช่วยผมทางนี้ด้วยครับ!” พิภพที่หันออกจากห้องไปเรียกนางพยาบาลหันกลับมาที่เตียงผู้ป่วยก่อนที่เขาจะชะงักไปเมื่อเห็นหน้าของคิรินทร์

“คิรินทร์!” พิภพอุทานเบาๆเขาจำภาพของเพื่อนร่วมห้องสมัยม.5ของเขาคนนี้ได้ดีแต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรเพราะว่าเวลามันผ่านล่วงเลยไปถึงสิบปีแล้วแต่คิรินทร์กลับดูไม่โตขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลยอันที่จริงมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เพื่อนของเขาคนนี้จะมายืนอยู่ตรงหน้าเขาในวันนี้เพราะเขาไม่เคยลืมภาพร่างไร้วิญญาณของคิรินทร์ที่ถูกเข็นลงมาจากอาคารเรียนต่อหน้าต่อตาพวกเขาและเด็กนักเรียนเซนต์มาบุสอีกหลายคน เขารู้สึกขนลุกเมื่อคิรินทร์หันมาจ้องหน้าเขาสิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปคือดวงตาของเขาที่เคยอ่อนโยนเมื่อสิบปีที่แล้ววันนี้มันกลับดุดันกินเลือดกินเนื้อก่อนที่ร่างกายของเขาจะรู้สึกชาขึ้นเรื่อยๆ “คุณหมอครับรบกวนช่วยดูอาการของมิสหน่อยสิครับ!” แอนดี้หันมาถามพิภพที่ดูเหมือนว่าเขาจะเกร็งไปทั้งตัวก่อนที่หมอหนุ่มจะหงายหลังหมดสติไป

“มิสครับๆ ฮาเวิร์ดLineมาบอกว่ามิสมาลินฟื้นแล้วแต่ตอนนี้กำลังดูอาการอยู่ว่าจะเป็นอัมพฤกษ์รึเปล่าน่ะครับ!” คริสมาสต์รีบเดินมาบอกผกากับเต็มทรัพย์ทำเอาทั้งคู่ถึงกับหน้าซีด “ทำไมถึงต้องตรวจว่าเป็นอัมพฤกษ์ล่ะคะลูก? ก็หมอบอกว่ากระดูกคอร้าวกับฟกช้ำดำเขียวกับเอ็นบริเวณขาฉีกแค่นั้นนี่คะ!” ผกาดูเหมือนจะร้องไห้ออกมา “คือดีไซน์โทรมาเล่าให้ฟังว่ามิสมาลินชักตอนที่พวกเขาสามคนพยายามจะป้อนน้ำมิสน่ะค่ะ” ฟารีดาเดินเข้ามาสมทบ “แค่นั้นก็ไม่น่าถึงกับจะเป็นอัมพฤกษ์นี่นะอาจจะเป็นอาการช็อคหรืออะไรสักอย่างรึเปล่า?!!!” เต็มทรัพย์พยายามวิเคราห์ะสถานการณ์ให้ดูน่าเบาใจ “ว่าแต่ตอนนี้พวกฮาเวิร์ดยังอยู่ที่โรงพยาบาลรึเปล่าคะ?” ผกาถามด้วยความเป็นห่วง “หมอให้กลับมาบ้านก่อนครับเพราะเขาอยากให้มิสมาลินพักผ่อนเยอะๆและตอนนี้ทางโรงพยาบาลกำลังวินิจฉัยอาการของมิสอยู่ครับ” คริสมาสต์ตอบ “ก็ดีไปนะเดี๋ยวครูจะได้ไปบอกพ่ออธิการว่าให้ไปเยี่ยมดูอาการพรุ่วนี้ดีกว่าเพราะวันนี้ดูพ่อจะเหนื่อยมากๆ” ผการีบเดินปรี่ไปบอกบาทหลวงจรัล “แล้วไอ้กาโต้เป็นไงบ้างได้ไปดูมั้ย?” เต็มทรัพย์หันมาถามคริสมาสต์กัยฟารีดา “พวกดีไซน์กับฮาเวิร์ดซื้อกระเช้าไปเยี่ยมแล้วค่ะแต่ดูเหมือนกาโต้จะไม่ยอมคุยกับสองคนนั้นเลย!” ฟารีดาส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ “เฮ้อ งั้นเดี่ยวพรุ่งนี้ตอนฉันไปเยี่ยมมาลินจะได้ไปคุยกับมันเอง!” เต็มทรัพย์ถอนหายใจ

“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า องค์แห่งความรักและเมตตาปราณีลูกขอกราบขอบพระคุณพระองค์ที่ได้โปรดทรงเมตตาลูกให้ผ่านชีวิตการเล่าเรียนวันนี้ด้วยดี ลูกสอบได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งของระดับชั้นในวิชาวิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์และภาษาไทยลูกดีใจที่ทำให้พ่อแม่ของลูกดีใจและลูกรู้ว่าพระองค์ก็ทรงดีใจกับความพยายามที่สัมฤทธิ์ผลของลูก กราบขอบพระทัยสำหรับสติปัญญาที่พระองค์โปรดประทานให้ลูก ประการสุดท้ายลูกกราบทูลขอพระเมตตาของพระองค์โปรดสถิตย์อยู่กับลูกและครอบครัว เพื่อนๆและครูบาอาจารย์ที่ลูกรัก และขอพระองค์โปรดรับดวงวิญญาณของซิสเตอร์สมคิดกับคริสโตเฟอร์ไว้ในดินแดนอันเป็นนิรันดร์ของพระองค์ด้วยเถิด เอเมน” หลินสวดภาวนาถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าก่อนที่เธอจะทิ้งตัวลงนอนอย่างมีความสุข “เพล้ง!!!” เสียงของวัตถุหนักๆบางอย่างลอยมากระทบกับหน้าต่างห้องนอนของหลินจนแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆ “เฮ้ย! ใครมาทำแบบนี้กันเนี่ย!!!” หลินเปิดโคมไฟแล้วมองดูภาพของก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นที่อยู่บนพื้น เด็กสาวรีบลุกไปเปิดไฟก่อนจะเดินเลี่ยงเศษกระจกมาเปิดหน้าต่างออกไปสำรวจดู “ก็ไม่เห็นมีใครนี่หน่า!” เด็กสาวพูดอย่างงุนงง “โอ๊ย!!!” หลินที่ล้มลงไปกองกับเศษกระจกด้านหลังจนมันบาดแขนและหลังของเธอเหวอะหวะกำลังกุมหน้าผากที่เพิ่งถูกก้อนหินเขวี้ยงใส่จนเลือดไหลอาบ เธอได้ยินเสียงหัวเราะของผู้ชายที่ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านไป “หลินๆในห้องมีอะไรรึเปล่าลูก?! ตายแล้ว คุณคะ คุณพาลูกไปโรงพยาบาลเร็ว!!!” แม่ของหลินที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาตกใจเมื่อเห็นสภาพของลูกสาวก่อนที่เสียงโทรศัพท์มือถือของหลินจะดังขึ้น “แม่คะ อย่ารับนะคะ หนูกลัว!!!” เด็กสาวปล่อยโฮ “ไม่เป็นไรลูกแม่คุยเอง” เธอหันมาบอกลูกสาวขณะที่พ่อของหลินเข้ามาเอาผ้ากดแผลที่หน้าผากของลูกสาวก่อนที่จะกวาดเศษกระจกบริเวณนั้นออก “ฮัลโหล คุณมีปัญหาอะไรกับลูกสาวดิฉันคะ เป็นโรคจิตรึเปล่า?!!! ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ตามเรื่องนี้ดิฉันเอาเรื่องคุณแน่ๆ” แม่ของหลินแผดเสียงด้วยความโกรธแค้น “แม่คะนี่หนูฟารีดานะคะ มันเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?” แม่ของหลินดูมีสีหน้าที่โล่งใจก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟารีดาฟัง

“เฮ้อ เหลือเชื่อจริงๆเลยค่ะทั้งเรื่องมิสสมคิด กาโต้ มิสมาลินและนี่ยังจะมาเรื่องหนูหลินอีกภายในวันเดียว นี่มันวันอะไรกันเนี่ย?!!!” ผกาในชุดคลุมนอนสีขาวมิดชิดนั่งจิบน้ำชาอยู่ในห้องพักผู้ป่วยของหลินเธอจีบปากคุยกับพ่อและแม่ของหลินด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่ห่วงใยลูกศิษย์แต่สำหรับแอนดี้แล้วเขารู้สึกว่าผกากำลังรู้สึกสนุกกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ชนิดเรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกทีเดียว “ยังไงก็ต้องขอขอบคุณมิสและน้องๆนะคะที่อุตส่าห์มาอยู่เป็นเพื่อนหลิน” แม่ของหลินหันไปขอบคุณฟารีดา,ดีไซน์,ฮาเวิร์ด,คริสมาสต์,แอนดี้และคิรินทร์ที่นั่งกันอยู่เต็มห้อง “ครั้งที่แล้วหลินก็ไปติวไปนอนที่บ้านแอนดี้เนี่ยแหละ ครั้งนี้พ่อต้องรบกวนเราอีกแล้ว” พ่อของหลินหันมาตบไหล่แอนดี้ “ไม่เป็นไรครับผมว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเราไม่ควรปล่อยให้หลินอยู่คนเดียวครับเพราะคนร้ายเป็นใครก็ไม่รู้จะเข้ามาตอนไหนเมื่อไรก็ได้” แอนดี้หันไปยิ้มกับคุณพ่อของหลิน “ยิ่งหลินเป็นผู้หญิงแบบนี้ปล่อยให้อยู่คนเดียวคงไม่ดีแน่ๆค่ะ เพราะแบบนี้เราก็เห็นชัดแล้วว่ามีคนโรคจิตจ้องทำร้ายหลินอยู่!” ดีไซน์พูดให้ทุกคนฟัง “ผมว่ายังไงก็น่าจะไม่พ้นเพื่อนนักเรียนในห้องแหละครับเพราะจากคลิปเสียงที่อัดไว้เขาจำเสียงดีไซน์ได้น่าจะเป็นประโยชน์ในการติดตาม” ฮาเวิร์ดพูดขึ้นบ้าง “แต่ถ้าเป็นคนในห้องให้ตำรวจฟังเขาก็อาจจะติดคุกนะคะคือไม่อยากให้มันถึงขนาดนั้นเลยแค่ตักเตือนกันก็พอ!” หลินรีบพูดเมื่อรู้ว่ามันอาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ “ไม่ได้นะคะน้องหลิน ของแบบนี้แค่ตักเตือนไม่ได้นะคะ!!!” ผการีบลุกขึ้นยืนก่อนที่เธอจะรู้ตัวว่าเพิ่งจะแสดงอาการออกหน้าออกตาไปเกินงาม “เอ่อ คือ เรื่องการทำลายทรัพย์สินและถึงขั้นเจตนาทำร้ายร่างกายแบบนี้มิสว่าถ้าปล่อยไว้จะเป็นอันตรายต่อตัวหนูเองนะคะลูก!” ผการีบแก้ต่าง “ผมเห็นด้วยกับมิสนะครับตอนนี้เขาทำหลินแล้วต่อไปอาจจะเป็นใครสักคนในหมู่เพื่อนนักเรียนก็ได้” คิรินทร์พูดพลางชี้ไปรอบๆกลุ่ม “แม่เห็นด้วยกับน้องเขาค่ะพ่อ แม่ว่าเรื่องนี้ปล่อยไว้ไม่ได้เราต้องแจ้งความไว้ก่อนอย่างอื่นค่อยว่ากัน” แม่ของหลินหันมาบอกสามี “งั้นระหว่างที่พ่อกับแม่ไปแจ้งความกับพาตำรวจไปตรวจสอบที่บ้านคืนนี้พ่อขอฝากหลินกับพวกเราอีกวันนะ” พ่อของหลินหันมาฝากฝังลูกสาวกับเด็กๆ “เอ่อ พ่อขา คือหนูก็ไม่เป็นอะไรมากพรุ่งนี้หนูขอไปโรงเรียนกับเพื่อนได้มั้ยค้า?” หลินออดอ้อนก่อนพ่อกับแม่ของเธอจะพยักหน้าอนุญาติ “โธ่ หลินเรากะจะหยุดเป็นเพื่อนหลินเลยนะ!!!” คริสมาสต์โพล่งขึ้นมาด้วยความผิดหวังก่อนที่ผกาจะหันมาตวาดแหว “ตาคริสมาสต์ ไม่ต้องฉวยโอกาสเลยนะยะ!!!”

มิสผกาขอลานักเรียนไปนอนเฝ้ามิสมาลินที่ห้องพักคนป่วยซึ่งเด็กๆทุกคนถึงกับโล่งใจที่ครูประจำชั้นของเขาไม่ได้อาการร้ายแรงถึงขั้นจะเป็นอัมพฤกษ์แต่หลังจากนี้คงต้องทำกายภาพบำบัดบ่อยหน่อยหลังจากที่หายดีพร้อมกับให้พักผ่อนเยอะๆอย่างไรก็ตามหมอบอกว่าต่อไปนี้มิสมาลินอาจจะไม่ได้กลับมาแข็งแรงแบบเก่าเพราะจากการเอ็กซเรย์พบว่าเธอมีปัญหากับกระดูกสันหลัง ฟารีดา,แอนดี้,คิรินทร์และคริสมาสต์ปล่อยให้หลินอยู่ในห้องกับดีไซน์ที่นั่งหมักผมพลางเปิดยูทูบบนไอแพดดูรายการโปรดข้างๆหลินในขณะที่ฮาเวิร์ดดูเหมือนจะอ่อนเพลียจนหลับสนิทไปทั้งชุดยูนิฟอร์ม “ป่านนี้กาโต้จะเป็นยังไงบ้างน้า?” ฟารีดาพูดระหว่างเดินออกจากลิฟท์ชั้น6 “มันจะยอมคุยกับเราดีๆรึเปล่าเถอะ!!!” คริสมาสต์พูดพึมพำ “คุยดีไม่ดียังไงก็ต้องไปดูอาการเพื่อนมันหน่อยคริสมาสต์” ฟารีดาหันมาตอบก่อนที่จะแอบแง้มๆประตูห้องกาโต้เพื่อดูว่าเขาหลับรึยัง “เออ ดีมาก!!! สะใจกูดี” เสียงทุ้มนุ่มคุ้นหูของชายคนหนึ่งดังขึ้น “ยังไงลูกกาโต้ก็ไม่ต้องกลัวนะคะ เทอมนี้ยังไงผลสอบของลูกก็ต้องเป็นที่หนึ่งของระดับชั้นแล้วลูกก็จะต้องสอบหมอให้พ่อให้แม่ให้ได้นะคะ!!!” แม่ของกาโต้พูดด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความปิติยินดี “แต่แม่ครับผมไม่ได้เรียนสายวิทย์เขาจะให้เข้าเป็นหมอเหรอครับ?” กาโต้ถามด้วยความงุนงง “ฉันจะทำเรื่องย้ายแผนการเรียนแกไปห้อง5/1ตอนเทอมหน้านี่แหละ แก้เกมส์ที่เกรดเฉลี่ยแกเข้าโควต้าสายวิทย์ตอนม.4ไม่ได้ยังไงล่ะ!!!” เสียงของฐิตารีย์ตวัดขึ้นห้วนๆอย่างมีโมโห “นี่แหละเป็นเหตุผลที่พ่อให้ลูกเรียนเสริมฟิสิกส์ เคมีและชีวะทุกเย็นไงล่ะลูก ลึกได้เจอกับโจทย์เอ็นทรานซ์และแอดมิชชั่นยากๆระดับสอบเข้ามหาวิทยาลัยทีเดียวดูจากความเข้าใจในตัววิชาแล้วลูกน่าจะเก่งกว่าตัวท็อปสายวิทย์บางคนเสียอีก” พ่อของกาโต้พูดกับเขาด้วยความพอใจ “เสียงนี่!!!” แอนดี้กระซิบฟารีดากับคิรินทร์ซึ่งทั้งสองหันกลับมาพยักหน้าตอบ ทุกคนเห็นตรงกันว่าเป็นเสียงของผู้ชายในโทรศัพท์ที่โทรมาขู่หลิน “แต่ฉันถามแกจริงๆเถอะว่าข้อสอบวิทยาศาสตร์งวดนี้แกทำยังไงถึงได้แพ้ไอ้เด็กสาม-สี่คนพวกนั้นได้ฮึ?!!!!” ฐิตารีย์ถามเสียงเข้ม “ผมเป็นลมในห้องสอบครับแล้วอย่างที่รู้พวกมันโกงข้อสอบ” กาโต้ตอบเสียงอ่อย “เอาเถอะๆยังไงครั้งหน้าลูกก็พยายามหน่อยแล้วกันพ่อทุ่มสุดตัวตัดกำลังคู่ต่อสู้เพื่อแกขนาดนี้แล้ว จัดการนังเด็กหลินให้มันกลัวจนไม่กล้าไปโรงเรียนก่อนแล้วค่อยไปเล่นงานอีกสองคนที่เหลือที่มันได้ท็อป” ฟารีดากำมือแน่นด้วยความโกรธจัดก่อนที่เสียงนางพยาบาลข้างๆจะดังขึ้น “นี่มายืนทำอะไรกันตรงนี้คะเด็กๆ?” แอนดี้กับคริสมาสต์ถึงกับสะดุ้งโหยงเช่นเดียวกับฟารีดาที่ก็ดูเหมือนจะไปไม่เป็นเช่นกันหากแต่คิรินทร์สามารถแก้เกมส์ได้อย่างชาญฉลาด “อ๋อ พวกผมจะมาเยี่ยมเพื่อนที่โรงเรียนครับแต่จำห้องไม่ได้เลยเดินแอบแง้มดูทุกห้องเลย นี่ห้องกาโต้รึเปล่าครับ?” คิรินทร์เปิดเข้าไปโดยไม่รอคำตอบ

พ่อของกาโต้สะดุ้งสุดตัวก่อนจะรีบลุกจากเก้าอี้แล้วหันมามองเด็กทั้ง4ที่เดินเข้ามาในห้อง “ไม่ทราบว่าใครเชิญพวกเธอจ๊ะ?” แม่กาโต้กอดอกมองคิรินทร์ตั้งแต่หัวจรดเท้า “เอาน่าๆคุณเพื่อนมาเยี่ยมลูกก็อย่าเสียมารยาทสิ!” พ่อของกาโต้แสดงท่าทีลุกลี้ลุกลนจนไม่เป็นธรรมชาติ “ว่าแต่เธอเป็นใครทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้า?” ฐิตารีย์ถามคิรินทร์ห้วนๆ “อ๋อ ผมเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับแอนดี้ครับแต่ผมเรียนสายวิทย์ห้อง5/1น่ะครับ” คิรินทร์ยิ้มซึ่งปฏิกิริยาจากแม่ของกาโต้ที่มีต่อเขาก็ดูอารีอารอบขึ้นทันตาเห็น “เออ ดีจริงๆแม่กำลังทำเรื่องย้ายแผนการเรียนของกาโต้พอดียังไงก็ขอฝากเพื่อนล่วงหน้าก่อนเลยนะคะเพราะว่าเพื่อนห้องนี้เท่าที่ดูแล้ว…ห่วยแตก!!!!” แม่กาโต้เย้ยหยันอีกสามคนที่เหลือโดยไม่สนใจว่าพวกเขามีสีหน้าที่เจื่อนลงไปทันที “ว่าแต่ทำไมมึงอยู่ที่โรงพยาบาลดึกจังวะคริสมาสต์นี่จะ5ทุ่มแล้วนะ!” กาโต้ถามคริสมาสต์ซึ่งเขาแสดงอาการเหมือนจะรับรู้ว่ามีเพียงคริสมาสต์คนเดียวที่มีตัวตนยืนอยู่ตรงนั้น “อ๋อ เอ่อ คือ” คริสมาสต์ตะกุกตะกักก่อนที่ฟารีดาจะแย่งตอบ “พวกเรามานอนเป็นเพื่อนหลินน่ะคือเกิดอุบัติเหตุกับหลินน่ะกาโต้ มีคนเอาก้อนหินไปขว้างกระจกห้องหลินแตกแล้วขว้างหินใส่หัวหลินด้วย หลินต้องเย็บแผลเกือบสี่เข็มแถมที่แขนกับที่หลังล้มลงโดนเศษกระจกจนเหวอะเลยแหละแต่ตอนนี้หลินปลอดภัยดีแล้วพ่อกับแม่ของหลินกำลังไปแจ้งความ” ฟารีดาเน้นเสียงตรงคำว่า ‘แจ้งความ’ ก่อนที่แอนดี้จะสังเกตุเห็นว่าพ่อของกาโต้มีท่าทีที่แสดงถึงความอึดอัดขึ้นมาทันที “เหรอ? ถึงขั้นแจ้งความกันเลยเหรอ?!!!” นายแพทย์หนุ่มเหงื่อไหลอาบหน้า “ครับคนพวกนี้มันโรคจิตคงจะปล่อยไว้ไม่ได้” แอนดี้พูดนุ่มๆ “เอาเถอะไม่ถึงกับตายกับบุญเท่าไรแล้ว แม่ขอเชิญพวกเธอกลับไปดูใจหลินก็แล้วกันเพราะถึงเวลานอนของกาโต้แล้วและพ่อกับแม่ก็จะกลับบ้านกันเสียที ขออย่างหรึ่งน่ะอย่าพยายามขึ้นมาก่อกวนหรือทำอะไรแผลงๆใส่ลูกฉันกลางดึกอีก” ฐิตารีย์โบกมือไล่พวกเขาออกจากห้อง


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com