ที่มา http://www.morsengherbs.com/perfect5/data/2/0054-1.html
---
ปัจจุบัน Vitamin C หรือ Ascorbic Acid จัดได้ว่าเป็นวิตามินที่มีความสำคัญ ต่อสุขภาพร่างกาย เป็นอย่างมาก ในอดีตทราบกันดีว่า Vitamin C นี้ สามารถนำมาใช้ในการป้องกัน และบรรเทาอาการหวัดได้ดี แต่จากผลการศึกษาและวิจัยหลายๆ ฉบับพบว่าVitamin C นี้มีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย
1. เรื่องไข้หวัด
Vitamin C สามารถกระตุ้น ให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี โดยเฉพาะกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว และสาร Interferon ซึ่งช่วยป้องกันการติดเชื้อ ไวรัสในร่างกาย
2. เรื่องหัวใจ
Vitamin C ช่วยให้หลอดเลือดแดง มีความยืดหยุ่นตัวได้ดีขึ้น ทำให้ระดับความดันโลหิตอยู่ในระดับปกติ ป้องกันการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง ป้องกันการเกิดภาวะโรคหัวใจได้ต่อไป ซึ่งหากใช้ร่วมกับ Vitamin E ก็จะทำให้ประสิทธิภาพ ในการป้องกันภาวะโรคหัวใจนี้ดียิ่งขึ้น
3 เรื่องมะเร็ง
จากการศึกษาพบว่าการให้ Vitamin C ในปริมาณสูง จะสามารถช่วยยืดอายุในผู้ป่วยโรคมะเร็งต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการปวด ในผู้ป่วยมะเร็งได้ด้วย อย่างไรก็ดีควรใช้ร่วมกับ Vitamin อื่นๆ ที่ให้ผลทางด้านต่อต้านอนุมูลอิสระเช่น Betacarotene, Vitamin E etc. และควรใช้เกลือแร่ต่างๆ เช่น Selenium ร่วมด้วย
4. เรื่องผิวพรรณ กระดูกและข้อต่อ
Vitamin C มีบทบาทสำคัญในการสร้างโปรตีน Collagen ซึ่งช่วยในการส่งเสริมสุขภาพผิวพรรณ ป้องกันการเกิดภาวะริ้วรอยแก่ก่อนวัย บำรุงกระดูก เสริมสร้างความหนาแน่นของกระดูก โดยเฉพาะบริเวณส่วนปลายกระดูกและข้อต่อ ลดอาการปวดจากโรคไขข้อต่างๆ
จึงนับว่าเป็นความสำคัญมาก ที่ร่างกายควรจะได้รับ Vitamin C อย่างเพียงพอ โดยการรับประทานผักและผลไม้สด ให้ได้อย่างน้อยวันละ 5 มื้อ หรือการรับประทาน Vitamin C ในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ร่วมเข้าไป และหลีกเลี่ยงภาวะเสี่ยงต่อการสูญเสีย Vitamin C ในร่างกายเช่นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือการสูบบุหรี่เป็นต้น
---
แต่จากสรรพคุณข้างต้นที่ว่า วิต ซี ช่วยเรื่องการสร้างคอลลาเจ้นนั้น ก้อได้ยกตัวอย่างไว้ชัดเจนแล้ว
แต่จะขอเพิ่มเติมอีกนิดว่า วิต ซี เป็นสารมีสรรพคุณต่อต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant) ตัวนึงคร่ะ สารพวกนี้มีหลายตัว ที่ดังๆ ตอนนี้ ก้ออิกลูต้าไทโอนนั่นล่ะคร่ะ (ไทโอนเป็นสารต้านอนุมูลคร่ะ) ไม่ก้อพวกฟีนอล อย่างแทนนิน (ผลไม้รสฝาดๆ อย่างฝรั่ง กล้วยห่ามๆ เปลือกมังคุด เป็นต้น) แล้วก้อพวกเบต้าแคโรทีน (วิตามิน เอ) วิตามิน อี และก้อพวกสารประกอบที่มีแร่สังกะสี (Zinc) ก้อด้วยคร่ะ
โดยสารดังกล่าวพวกที่ว่า จะไปช่วยยับยั้งพวกอนุมูลอิสระที่จะทำลายเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ทำให้เซลล์ในร่างกายนั้นสุขภาพดี
ง่ายๆ เลย สุดท้ายผิวพรรณก้อออกมาเปล่งปลั่งดูดีได้ในที่สุด
แล้วทีนี้ก้อมาความเห็นดิชั้น เรื่องวิตามินซี กินแล้วจะสวยนั้น มันก้อคงใช่ แต่ไม่ทั้งหมดหรอกนะคระ ร่างกายเรารับวิต ซี ในแต่ละวันได้แค่ไม่กี่มิลลิกรัมเองคร่ะ แต่โดสที่เราได้รับในแต่ละครั้งก้อตั้งแต่ 500 1000 มิลลิกรัม โน่นแน่ะ
และแน่นอนที่ร่างกายสามารถขับถ่ายวิต ซีที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ออกมาได้เกือบจะหมดจดทางฉี่ (วิต ซี ละลายในน้ำ) เพราะนั้น จะกินเข้าไปเยอะแยะก้อจะเปลืองเปล่าๆ นะคระ ที่สำคัญ โรคที่เกิดจากการบริโภควิต ซี มากเกินไปก้อมีนะคระ ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่ขี้เกียจหาข้อมูลตอนนี้คร่ะ แค่นี้ก้อยาวเยอะแยะแล้วคร่ะ
แต่คนที่อยากกินเพื่อสวยจริงๆ ขอแนะนำพวก วิตามินรวม ACE + Zinc เลยคร่ะ มีแต่สารต้านอนุมูลอิสระดีดีทั้งนั้น ส่วนสารอื่นๆ พวกไบโอติน น้ำมันพริมโรส ฯลฯ ไรงี้ ต้องไปดูเอาเองนะคระ ว่าพื้นเพแต่ละคนผิวพรรณเส้นผมเป็นไง ต่างคนก้อต่างผลลัพธ์คร่ะ
ทางที่ดี ทานอาหารให้ครบก้อพอคร่ะ ผักผลไม้ที่สะอาดๆ น่ะดีต่อสุขภาพและยังมีกากใยที่ดีต่อระบบทางเดินอาหารด้วยนะคระ ห่างไกลมะเร็งลำไส้ด้วยคร่ะ อย่าลืมออกกำลังสม่ำเสมอด้วยนะคระ ผิวพรรณดีแต่เป็นโรคอ้วน น้ำตาลในเลือดสูง โคเรสเตอรอลเกิน ก้อเดี้ยงซี้แหงง่ายๆ ได้นะคระ
เพิ่มเติม เรื่องแบลกมอร์ นะคระ ที่เค้าออกมาโฆษณาว่าผลิตภัณฑ์ของนางเริ่สเก๋ดีเด่และขายแพงกว่าชาวบ้านนั้น อันเนื่องมาจากผลิตภัณฑ์นางได้มาจากวัตถุดิบทางธรรมชาติน่ะคร่ะ อย่างเช่นวิต ซี เนี่ย ก้อไปสกัดมาจากผักผลไม้เลย แต่ในบางยี่ห้อ เค้าก้อผลิตด้วยกรรมวิธีทางเคมีสังเคราะห์ขึ้นมา
แต่สุดท้าย ก้อได้เป็นวิต ซี ที่มี โครงสร้างโมเลกุลที่แทบจะไม่แตกต่างกัน และทำงานได้เหมือนกันคร่ะ (เพื่อนเภสัช บอกมา) ก้อเลือกเอาตามความพอใจและขนาดกระเป๋าตังนะคระ ที่แน่ๆ กินวิต ซี ยี่ห้อไหนก้อตาม ไม่เป็นโรคเลือดออกตามไรฟันแน่นอนคร่ะ 555+
คงจบแค่นี้ล่ะคร่ะ เรื่องวิต ซี แบบคร่าวๆ
ตอนนี้ชั้นกินวิต รวมของ Z-Bec อยู่คร่ะ ก้อเลยพอรู้เรื่องวิตามินที่รวมอยู่ในนั้นบ้างอะไรบ้างน่ะคร่ะ
คราวหน้าถ้าอยากรู้ไรก้อถามมาได้คร่ะ ถ้าว่างก้อจะมาปั่นตอบให้คร่ะ
โม - โซไซตี้คร่ะ สังคม สวยงามอย่งพอเพียง แอร๊ย
_________________
CINDY™ - Fashion Dies, But Style is Forever.
