
พั้นช์ - บทที่ 7 (2.5/5)
ถ้าใครได้ติดตามเพจนี้มาจะสังเกตุเห็นได้ว่าทั้งคุณบก. มิสนาโอ และพาราแทบจะไม่แตะรีวิวเพลงไทยเลยซึ่งเนื่องมาจากอุตสาหกรรมเพลงไทยเมนสตรีมปัจจุบันที่ต้องขอเรียนตามตรงว่า "ฉาบฉวย" และ "เอาแต่จะขาย" จนบางครั้งเราก็ต้องเสียศิลปินดีๆที่มีความสามารถมาจากกว่าร้องตามโปรดิวเซอร์สั่ง เป็นนี่ก็เป็นศิลปินอีกคนที่เคยโชว์ฝีมือจรดปากกาเพลงเพราะมาแล้ว แต่สุดท้ายก็โดนโปรดิวเซอร์และการตลาดของค่ายครอบงำเต็มตัวไปอย่างน่าเสียดาย "พั้นช์ วรกาญจน์" กับอัลบั้มล่าสุด "บทที่ 7"
ก่อนอื่นต้องเรียนให้ทราบก่อนว่าในช่วงที่พาราเองฟังเพลงสากลช่วงมัธยมอยู่นั้น แทบไม่ได้ฟังเพลงไทยเลยจนกระทั่งมีนักร้องสาวตาโตคนนึงที่ทำเพลงแบบ "เอ้อ ดูมีอะไรมากกว่าเพลงวัยรุ่นทั่วไปนะ" ก็ลองฟังดูแล้วก็เกิดอาการชอบและติดตามผลงานขึ้นมา ในอัลบั้มแรก "พั้นช์" ได้จรดปากการ่วมแต่งเพลงเพราะๆในอัลบั้มด้วย (ไม่ถือสาแต่ว่ารู้สึก/ไม่รักช่างปะไร) ซึ่งจุดประกายให้พาราเองเริ่มแต่งเพลง ณ ตอนนั้น (แน่นอนว่าเธอกลายเป็นไอดอลพาราไปในทันที ไม่ใช่เพราะหน้าตา แต่เพราะความสามารถของเธอ)
ซึ่งหลังจากสองอัลบั้มแรกประสบความสำเร็จมหาศาล มาในอลบั้มที่สามเธอเลือกจะนำเสนอตัวเองเข้าสู่งานคุณภาพและเป็นตัวเธอมาขึ้นด้วยดนตรีแนวโฟล์คที่เธอถนัดและรักมาแต่เด็ก แม้ว่าผลงานจะออกมาดีจนน่าประทับใจ แต่ตลาดเพลงกลุ่มใหญ่อย่างวัยรุ่นซึ่งต้องการบริโภคอะไรที่ย่อยง่ายทำให้กระแสเธอในอัลบั้มนั้นตกไปอย่างมาก กลายเป็นว่าหลังๆผลงานของเธอจึงอิงไปในทางตลาดเสียมากกว่า โดยมีโปรดิวเซอร์และค่ายกุมบังเหียน
สำหรับอัลบั้ม "บทที่ 7" เป็นอัลบั้มที่ 7 แล้ว สิ่งที่พาราคาดหวังก็คืองานที่กลับมาเป็นพั้นช์จริงๆ งานที่ดนตรีติดกลิ่นโฟล์คพอดีๆ งานที่เรียบเรียงเนื้อร้องง่ายๆแต่ไพเราะซึ่งอัลบั้มนี้ตอบโจทย์มากกว่าอัลบั้มที่แล้วพอสมควรเลยทีเดียวในเรื่องของภาคดนตรีที่ฟังแล้วรู้สึกว่าอะไรแบบพั้นช์ๆได้กลับมา หากแต่...
วิมานสวรรค์ก้ได้พังทลายครืนเมื่อได้ฟังตัวเพลงเต็มๆ ไม่ใช่ว่าพั้นช์ร้องไม่เพราะร้องไม่ดี แต่เนื้อเพลงเกือบค่อนข้างอัลบั้มนั้นสมควรที่จะเรียกว่า "เรียงความ" มากกว่า "เพลง" เนื่องจากสัมผัสเอย คล้องจองเอยแทบจะไม่มี กลายเป็นว่าถูกกระแสเพลงปัจจุบันแบบ "ไร้สัมผัสตัดคล้องจอง" กลืนเข้าไป น่าเศร้าใจยิ่งนัก
สำหรับเพลงในอัลบั้มที่ยังมีความดีความชอบให้ชอบได้นั้นแน่นอนว่าตกเป็นสองซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้มอย่าง จุดประสงค์ไม่ชัดเจน (3.5/5) ตัวเพลงเป็นเพลงป๊อปร็อคติดกลิ่นความเป็นโฟล์คซองนิดๆ(แม้ว่่าโปรดิวเซอร์แจ้งว่าหยิบโซลร็อคมาเล่นด้วย ต้องเงี่ยหูฟังนานมากกว่าจะรู้สึก) ก็สนุกน่ารักๆสไตลืพั้นช์ในยุคหลังๆทั่วไป ฟังเพลินดีนะ ส่วนเพลงช้าอย่าง "ใช้เป็นเหตุผลได้ไหม" (3/5) เพลงป๊อปช้าๆ เพราะนะแต่ไม่สุดถ้าเทียบกับเพลงช้าเก่าๆขึ้นหิ้งอย่าง "ยิ่งกว่าเสียใจ" "วางมือบนบ่า น้ำตาก็ไหล" "แปลว่ายังหายใจ" เพลงนี้ยังห่างชั้นอีกเยอะ
ส่วนแทร็คอื่นๆในอัลบั้มยกความดีความชอบให้เพลงนี้ฟังแล้วดีใจมากในที่สุด "อีกฝั่งของฟากฟ้า" (4.5/5) เพลงเนื้อหาง่ายๆ สัมผัสเพราะ ดนตรีติดกลิ่นโฟล์คกรุ่นๆไม่ต้องเข้มมาก ฟังแล้วนึกถึงยุค ใหม่ มาช่า ถ้าประณีตกว่านี้ให้ 5 เต็มเลยเอ้า มาที่ "เปลี่ยน...จะดีไหม" (3.5/5) ป๊อปโฟล์คเนื้อเพลงน่ารักมาก ภาพรวมไม่เกร่อแบบเพลงเพื่อนแอบรักเพื่อนทั่วๆไป ต่อที่ซีรี่ย์เนื้อเพลงเพื่อนแอบรักเพื่อนแบบอกหักบ้างอย่าง "ไม่เคยเหมือนเป็นเพื่อนกัน" (3/5) เรโทคป๊อปร็อคที่ปรับภาคดนตรีให้ทันสมัยมากขึ้น จริงๆแล้วเพราะนะ แต่เสียงพั้นช์หวานอ่ะ ชินกบัเพลงแนวนี้ที่เสียงห้าวๆมากกว่า
"เคยน่ารักพอให้รักไหม" (4/5) ป๊อปโฟล์คเนื้อหาน้อยใจๆที่เรียบเรียงกำลังดี ไม่บรรจงยัดความเศร้าแต่ก็ไม่ได้เบาจนนึกว่ามาร้องคาราโอเกะ ลงตัว! ปิดท้ายแทร็คที่ยังพอฟังได้อย่าง "อย่าปล่อยให้ฉันฝันไปคนเดียว" (2.5/5) เพลงประกอบละคร"ท่านชายในสายหมอก"ที่เจ้าตัวไปเล่นเป็นนางเอกด้วย แต่เวอร์ชั่นอัลบั้มนี้เหมือนว่าจะมิกซ์ใหม่ จริงๆเพลงประกอบละครไทยก็ไม่มีอะไรมากอยู่แล้วฟังได้เรื่อยๆ แต่ไอ้ที่มิกซ์มาใหม่ที่แหละที่ทำให้โดนตัดไป 0.5 คะแนน ชิ
ส่วนเพลงอื่นภาคดนตรีกลับมาเป็นโฟล์คแบบพั้นช์ๆก็จริง แต่จุดนี้ขอกล่าวโทษแก่คนแต่งเนื้อเพลงที่แต่งเนื้อเพลงได้"ชุ่ย"มาก สัมผัว คล้องจอง เสียงคำเป็นคำตาย เสียงสั้น เสียงยาว ตบตีกันยุ่งเหยิงไปหมด ตอนแต่งได้ลองร้องเองรึยังว่ามันกระดากปากรึเปล่า แทนที่จะทำให้ภาพรวมอัลบั้มออกมาฟังได้รื่นทั้งอัลบั้มทะยานไป 3-3.5 คะแนน เจอแบบนี้เข้าไปแม้ว่าจะเคยปวารณาเป็นแฟนคลับเยี่ยงไรก็คงต้องตัดคะแนนเนื่องจากไม่สามารถทนฟังเพลงที่เหลือนั้นจบได้เหลือ 2.5 คะแนนเอวังละประการฉะนี้แล
_________________

April fighting! + angel Sojin�