Hilary Duff - Breathe In. Breathe Out. (3.5/5)
ห่างหายจากวงการไปถึง 7 ปี และปล่อยเพลงออกมาให้หายคิดถึงได้สองสามเพลง อีกสามวันอัลบั้ม Breathe In. Breathe Out. ของ Hilary Duff ก็ได้ฤกษ์ออกมาให้แฟนๆ ทั่วโลกได้ฟังกัน
จากอัลบั้มที่แล้ว Dignity อัลบั้มป๊อปที่ปรุงแต่งด้วยความเป็นเพลงแดนซ์ที่มความหลากหลายและเรียกได้ว่า "เปรี้ยว" ในขณะที่ Breathe In. Breathe Out. เป็นอัลบั้มป๊อปที่ยังคงปรุงแต่งด้วยแดนซ์เช่นเดียวกันแต่ลดความเปรี้ยวลงและมีความเป็นตลาดมากขึ้น ตลอดจนไปหยิบโฟล์คโทรนิก้ามาเล่นอีกด้วย ฟังทั้งอัลบั้มเผินๆ ตอนแรกก็อดนึกถึงศิลปินคนโปรดอีกคนของพาราอย่างหนู Diana Vickers ไม่ได้ แต่ฮิลทำออกมาตลาดมากกว่าช่วงตัวนึงนะ
จุดเด่นของอัลบั้มนี้คือฮิลสามารถพิสูจน์ตัวเองให้เห็นได้อีกครั้งว่าฉันไม่ใช่เด็กดิสนี่ย์ง้องแง้งเหมือนกับที่พิสูจน์ในอัลบั้ม Dignity อีกครั้ง แถมครั้งนี้ยังฟังง่ายกว่าอัลบั้มที่แล้วด้วยอีกทั้งจริตลูกล่อลูกชนก็มีมากขึ้นอีกด้วย แต่จุดที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเป็นจุดด้อยก็คือเรื่องการใช้เสียง ที่แม้ว่าจะพัฒนาขึ้นก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ดีเมื่อเทียบกับนักร้องในยุคปัจจุบัน และจริตที่แม้ว่าจะเต็มที่มากขึ้นจากอัลบั้มที่แล้วแต่กล้าพูดได้เลยว่าถ้านำเพลงพวกนี้ไปให้พวก Rihanna, Katy Perry หรือแม้กระทั่ง Taylor Swift ร้อง เราจะรู้สึกถึงจริตที่ชัดเจนมากขึ้นช่วงตัวนึงเลยทีเดียว
หลังจากที่ปล่อยงานโฟล์คอย่าง Chasing The Sun และ All About Me ออกมาแล้วผลตอบรับไม่ดีเท่าไหร่ ก็ได้ใบสั่งโล๊ะอัลบั้มทำใหม่ซะเกือบหมด และได้ร่วมงานกับศิลปินสุดฮอตในช่วงปีที่ผ่านมาอย่าง Tove Lo แถมถูกเลือกตัดเป็นซิงเกิ้ลแรกเสียด้วย Sparks (4/5) ที่ยืนพื้นด้วยป๊อปแดนซ์ที่ตบด้วยซินท์และเดินไลน์ดนตรีแบบเฮ้าส์ ฟังรอบแรกอาจจะเฉยๆ แต่ฟังเรื่อยๆ ติดหนึบในหูชะมัดยาด โดยเฉพาะท่อนผิวปาก
แทร็คอื่นๆ ในอัลบั้มที่น่าสนใจ เริ่มที่ One In a Million (4/5) เป็นป๊อปแดนซ์สาดเสียงซินท์ก่อนที่จะเพิ่มความเป็นป๊อปร็อคอ่อนๆ ในท่อนบริดจ์และท่อนฮุค ในขณะที่ Arms Around a Memory (3/5) ข้ามมาเล่นกับ EDM ซาวน์แบบพวก DJ ทั้งหลายแหล่เลย งานโอเคแต่ไม่ได้ถึงกับว้าว ต้องยอมรับนะว่างาน EDM ที่ลงเสียงร้องถ้าจริตไม่แรงจริง ๆ มันจะไม่สุด ซึ่งเพลงนี้เป็นตัวอย่างอย่างเห็นได้ชัด
Lies (4/5) เพลงที่ว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์ที่จบลงจากการโกหก ตัวเพลงเป็นซินท์ป๊อปผสานเรกเก้ฟิวชั่นติดเวิร์ลอ่อนๆ ด้วยซ้ำไป จริตในเพลงนี้เลิศ! คือจริตนางจะมาเต็มดีนะเวลาเพลงที่มีเนื้อหาที่นางมีประสบการณ์ร่วม(ดังที่เราเห็นใน Gypsy Woman ในอัลบั้มที่แล้ว) Brave Heart (3.5/5) มาคล้ายๆ กัน แต่ไม่จัดไม่พีคเท่า ส่วน Confetti (3/5) เป็นอีกเพลงในอัลบั้มที่ได้รับอิทธิพลจาก EDM มาก จริตในเพลงนี้ดีกว่า Arms Around a Memory นะ แต่ตัวเพลงจริงๆ อ่อนกว่า บวกพอขึ้นเสียงสูงมากๆ แล้วเสียงฮีลไม่น่าฟังเอาเสียเลย
มาที่ฝั่งงานโฟล์คและโฟล์คโทรนิก้ากันบ้าง แน่นอนว่าเราจะไม่พูดถึงแทร็คที่พ่อฮอบบิทโฟล์คอย่าง Ed Sheeran จรดปลายปากการวมถึงร้องแบคกิ้งให้ด้วยอย่าง Tattoo (4.5/5) ไม่ได้ ตัวเพลงเป็นโฟล์คผสานกับความเป็นป๊อปร็อค ลงตัวมาก!ทั้งดนตรีและเสียงฮิลฟังไปในทิศทางเดียวกัน ยกให้เป็นแทร็คที่ดีที่สุดในอัลบั้มนี้ Picture This (3/5) โฟล์คโทรนิก้ากลางๆ ฟังเพลินๆ ไม่แย่แต่ไม่เด่นเมื่อเทียบกับศิลปินท่านอื่นๆ ที่ทำโฟล์คโทรนิก้ามาก่อนหน้า ในขณะที่เพลงแถมในเวอร์ชั่น Deluxe อย่าง Rebel Heart (4/5) ที่เป็นโฟล์คโทรนิก้าเหมือนกันน่าสนใจกว่ามาก น่าจับลงในเวอร์ชั่นธรรมดามากกว่า Picture This ตั้งเยอะ
Breathe In. Breathe Out. (4/5) อินดี้ป๊อปร็อคจังหวะกลางๆ หยอดด้วยอิเลคโทรนิคบางๆ ลอยๆ งานประณีตงานสวยงาม แต่ท่อนฮุคฟังแล้วแอบนึกถึง Demons ของ Imagine Dragons นิดๆ ในฉบับที่ป๊อปกว่า ปิดท้ายด้วยป๊อปโฟล์คบริสุทธิ์ฟังสบายๆ Night Like This (3.5/5) ได้ Kendall Schmidt นักร้องนำวง Big Time Rush มาร่วมดูเอทกัน ฟังเหมือนมาร้องเพลงจีบกันหยอดกันมา เสียงเข้ากันดี๊ดี น่ารักมุ้งมิ้งมากๆ
โดยรวมอัลบั้มนี้ฟังได้เพลินๆ เรียบเรียงแทร็คมาค่อนข้างดีไม่ต้องกดข้ามแทร็ค แม้ว่าจะไม่"ว้าว"เหมือนตอนสมัย Dignity แต่งานดีไม่ผิดหวังจากการรอคอย 7 ปีที่หายไป ซื้อเถอะ งานดีนะ grin emoticon (ชวนซื้อกันโต้งๆ แบบไม่ได้ค่าโฆษณาเลยนะเนี่ย ค่ายเห็นจะจ่ายให้ก็ยินดีนะครับ 555+)
_________________
April fighting! + angel Sojin�
