
http://www.facebook.com/hysteriaculture
http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/06/19/lana-del-rey-ultraviolence-dream-poptrip-hopdowntempo-90-4-55/
Lana Del Rey : Ultraviolence : Dream Pop/Trip Hop/Downtempo (90% = 4.5/5)
เอาดีๆ ณ วินาทีนี้นี่ดิฉันยังฟัง Born To Die ผลงานขึ้นหิ้งของนางสาว ลาน่า เดล เรย์ ศิลปินมาแรงแห่งยุคอีกท่านหนึ่งยังไม่จบเลยนะคะขอสารภาพ ไม่รู้ว่าตัวเองขวางโลกรึเปล่าแต่โดยส่วนตัวไม่รู้สึกชอบอัลบั้มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์ชุดนั้นของเธอเลยแม้แต่นิดเดียวด้วยความที่ไม่ใช่ฟีลที่เรานิยมและไม่ถูกจริตเลยแม้แต่น้อย คือข้อเสียของดิฉันถ้าขึ้นมาแว๊บแรกไม่ใช่มันก็ไม่ใช่จริงๆให้ความพยายามไม่เกินสามครั้งถ้าฟังได้ไม่จบอัลบั้มนี่ก็เลิกรากันไปคนละทิศคนละทางกันเลย - แหม ช่างเป็นนักวิจารณ์เพลงที่ไม่เก๋เอาซะเลยเนอะ!
เริ่มมาสนใจในผลงานของนางจริงๆก็อีตอนที่ได้ฟัง Once Upon A Dream ซาวนด์แทร็คประกอบภาพยนตร์เรื่อง Maleficent หนึ่งในนางมารร้ายแห่งดิสนี่ย์ที่ดิฉันโปรดปรานที่สุดจากเรื่องเจ้าหญิงนิทรานั่นแลถึงได้เกิดอารมณ์กระตือรือร้นล้นปรี่จุดประกายในใจที่ทำให้รู้สึกอยากรู้จักกับตัวตนของศิลปินหญิงชื่อดังคนนี้มากขึ้นรวมถึงสะกิดต่อมความอยากในการลิ้มลองสัมผัส Ultraviolence ผลงานอัลบั้มชุดที่สามที่เพิ่งลืมตาดูโลกมาได้สดๆร้อนๆแถมยังมีคนอ่านรีเควสต์ให้รีวิวอัลบั้มนี้อีกต่างหากว่าแล้วก็ขอเปิดใจลองฟังผลงานของเธอดูอีกสักทีก็แล้วกัน
เฮ้ย ชอบอ่ะ! คือคำที่ผุดขึ้นมาในหัวตลอดเวลาขณะที่กำลังเปิดอัลบั้มชุดนี้ของเธอ อันนี้ขออนุญาติไม่หยิบยกไปเปรียบเทียบกับอัลบั้มBorn To Dieนะคะเพราะถือว่าดิฉันยังไม่ได้ฟังอัลบั้มนั้นถึงขั้นทะลุปรุโปร่งจะมีก็แต่ในแง่ของความรู้สึกที่โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกถูกชะตากับUltraviolenceมากกว่าชนิดน่าประหลาดใจแล้วก็เกินความคาดหมายที่งานเชิงทริพฮอพดาวน์เทมโพกับดรีมพ็อพเทือกๆนี้ที่ไม่เคยผูกมิตรกับดิฉันได้ดีเท่าไรนักกลับกลายเป็นร่ายมนตร์สะกดดิฉันเสียอยู่หมัดตั้งแต่ต้นจนจบและวนมาเปิดอีก3-4รอบพร้อมความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจชนิดเทียบเคียงกับอัลบั้มล่าสุดของแม่มาลัยที่ดิฉันขอยกให้เป็นอัลบั้มโปรดจากฟากของศิลปินหญิงประจำปีนี้ไปเลย
ฟังโดยผิวเผินอาจจะรู้สึกว่า เทปยาน ไม่ก็เอื่อยเฉื่อยลอยละล่องชวนหลับเหมือนกันไปหมดทั้งอัลบั้มแต่อันที่จริงแล้วสาวลาน่านางก็แทรกรสชาติของดนตรีมาเล่นกับพวกทริพฮอพดาวน์เทมโพค่อนข้างหลากหลายพอตัวเช่นกันมีตั้งแต่งานแบบแชมเบอร์พ็อพกรีดเสียงออเครสตร้าสวยๆ อคูสติคเพราะๆ แอมเบี้ยนท์หลอนหัวหวูดหวิว โทนของอารมณ์แจ๊ซซ์และบลูส์ ซอฟท์ร็อค อิเล็คโทรนิก้าและอินดี้ร็อค เรียกได้ว่าสโคปของตัวงานในอัลบั้มนี้กว้างอยู่แต่คุมโทนได้อย่างมีเอกภาพฉาบได้เป็นเนื้อเดียวทีเดียว อย่างเพลงที่ดิฉันชอบก็ตั้งแต่ Cruel World (4.5/5) เพลงเปิดอัลบั้มที่ฟังแล้วนึกถึงการผสานวิญญาณของฟิโอน่า แอ็พเพิ่ล,โทรี่ เอมอส,คาเรน โอและอลานิส มอริเซ็ตต์คือมันมีทั้งอารมณ์สวยงามบรรเจิดหมดจดละเมียดละไมล่องลอยมากไปจนถึงเกรี้ยวกราดมืดหม่นค่อนไปทางดุกลายๆบนท่วงทำนองดรีมพ็อพสวยๆที่ขนเอาอัลเทอเนทีฟร็อค แอมเบี้ยนท์และงานที่เขานิยามกันว่าเป็นพวกสเปซกระเดียดไปเป็นExoticaมาผสานเข้ากันได้อย่างดี นับเป็นหนึ่งในแทร็คที่ทรงพลังที่สุดของอัลบั้มนี้ Ultraviolence (4.5/5) ไทเทิ่ลแทร็คที่กล่าวถึงด้านมืดและมุมที่เจ็บปวดทุกข์ระทมของชีวิตรักได้อย่างแยบคาย เห็นว่าตัวเพลงได้แรงบันดาลใจมาจากงานจำพวกTorch Songยุค60sแต่มาในมิติของทริพฮอพ เล้าจ์น บลูส์และอัดเครื่องสายในเพลงค่อนข้างอลังการเด่นชัดทีเดียว บรรยากาศมืดหม่นแต่เปี่ยมไปด้วยความงดงาม มาที่ Shades Of Cool (4.5/5) ที่ขึ้นต้นมาเฉยๆแต่พอยิงตรงเข้าท่อนคอรัสทีนี่เล่นเอาสะพรึงถึงขั้นขนหัวลุกเอาเป็นว่าถ้าใครชอบเพลงที่สอดแทรกอารมณ์อลังการแบบแชมเบอร์พ็อพที่เป็นออเครสตร้าสวยๆอย่างที่ได้ยินกันใน Once Upon A Dream น่าจะชอบเช่นเดียวกับ Old Money (4.5/5) ที่เหมาะสำหรับคนรักความบรรเจิดอารมณ์แบบเทพนิยายในโลกมืดของสาวลาน่าไม่แพ้กันเพลงนี้หยอดมิติของการประสานเสียงที่ให้อารมณ์กอสเพลในช่วงคอรัสชนกับโทนของแจ๊ซซ์เล้าจ์นหม่นๆและออเครสตร้าทรงพลัง Brooklyn Baby (4.5/5) บีทกีต้าร์อคูสติคหวานๆช่วงต้นเพลงเพราะและดูสว่างไสวขัดกับธีมอัลบั้มมากๆแต่ไม่ขัดใจเพราะว่ามาถูกที่ถูกเวลาก่อนจะเข้าสู่ธรรมเนียมของงานแอมเบี้ยนท์และดรีมพ็อพที่มีเสน่ห์เหนือคำบรรยาย ชอบเพลงนี้นะ! West Coast (4/5) ดูเป็นเพลงที่ฟิวชั่นและทดลองที่สุดเพลงหนึ่งของอัลบั้มทีเดียวคือจับยัดลูพกลองแบบเร็กเก้ กีต้าร์แบบบลูส์และงานดาวน์เทมโพแบบลาน่าแล้วได้ตัวงานของมามีกลิ่นอายซอฟท์ร็อคและอินดี้ร็อคเท่ห์ๆ อีกหนึ่งเพลงที่ชอบมากๆเป็นการส่วนตัวยกให้ Money Power Glory (4.5/5) แม้จะดูเป็นงานทริพฮอพและดาวน์เทมโพสไตล์ลาน่าทั่วๆไปแต่สาส์นในตัวเพลงมันสัมผัสได้ถึงใจเป็นการส่วนตัว
อุปสรรคเดียวในการฟังอัลบั้มนี้คือถ้าคุณไม่หลับหรือถอดใจไปเสียก่อนที่จะบรรลุความดีของมันคุณก็คงจะตระะหนักได้ว่า Ultraviolence ที่คุณได้นั่งฟังมาจนจบนั้นคือหนึ่งในงานดนตรีคุณภาพประจำปีนี้โดยแท้จริงไม่ว่าคุณจะนับเธอเป็นศิลปินพ็อพหรือยังนอกกระแสด้วยภาพรวมของผลงานที่ไม่อิงตลาดกระแสหลักก็ตามที เสียดายลูกล่อลูกชนที่ดึงดูดให้คนส่วนมากฟังจนจบไม่ได้แพรวพราวเท่ากับลูกเล่นในอัลบั้มไม่งั้นล่ะก็ศิลปินหญิงเบอร์ใหญ่ๆท่านอื่นๆที่กำลังจะออกผลงานตามมาอาจจะสอยอัลบั้มนี้ของเธอกันไม่ลง