˹���á Forward Magazine

ตอบ

Mo : No Mythologies to Follow
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ Mo : No Mythologies to Follow 


http://www.facebook.com/HysteriaCulture

http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/03/22/mo-no-mythologies-to-follow-poptrip-hopelectronicarbalternative-dance-96-55/

MØ : No Mythologies to Follow : Pop/Trip Hop/Electronica/R&B/Alternative Dance (96% = 5/5)

เพียงแค่หน้าปกเก๋ๆกับชื่ออัลบั้มที่ดูงดงามราวกับเป็นชื่อของมหากาพย์จากวรรณกรรมทรงค่าอะไรสักอย่างแค่นี้ก็ทำให้ความสนใจของดิฉันมาหยุดที่ “Mؔ (เห็นว่าอ่านออกเสียงระหว่าง “Muh” กับเสียงร้อง “มอ” ของวัว) หรือชื่อเต็มๆว่า “Karen Marie Ørste” ศิลปินและนักแต่งเพลงวัย25ปีสุดแสนอัจริยะจากเดนมาร์คประหนึ่งราวกับถูกสะกดทีเดียว

พอได้ฤกษ์กดเล่น “No Mythologies to Follow” สตูดิโออัลบั้มแรกในชีวิตของเธอที่ปล่อยซิงเกิ้ลมาชิมลางตั้งหลายเพลงตั้งแต่ปีที่แล้วเล่นเอาดิฉันนั่งอ้าปากค้างพิมพ์คอลัมน์อะไรไม่ออกอยู่นานสองนานเพราะว่าส่วนตัวไม่คุ้นชินจริงๆกับเวทย์มนตร์ของดนตรีแถบสแกนดิเนเวียที่เจิดจรัสงามระยับทรงเสน่ห์ชนิดตั้งตัวไม่ทัน ล่าสุดที่ได้ฟังก็โน่น “Hird” กับอัลบั้ม “Moving On” ที่ก็ไม่รู้ว่าป่านนี้ไปอยู่ไหนขานั้นเขาเป็นงานอิเล็คโทรนิคแจ๊ซซ์แต่มาที่งานของหนู MØ นี่เธอมาในรูปแบบของอัลเทอเนทีฟแด๊นซ์ที่ผสานความเยือกเย็นของสแกนดิเนเวียนพ็อพเข้ากับอิเล็คทรอนิก้า อาร์แอนด์บีและทริพฮอพให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นงานพ็อพระดับไฮเอ็นที่ภาคดนตรีมีระดับสูงเสียดฟ้าห่างไกลจากความหวานหูของงานพ็อพแบบเมนทสตรีมอยู่หลายขุมทีเดียว

ในแง่ของงานดนตรีคุณภาพที่มีชั้นเชิงถูกหูบรรดานักวิจารณ์และคนธรรมดาที่มีภูมิคุ้มกันในการฟังดนตรีที่ค่อนข้างกว้างอย่างพวกเราๆส่วนตัวกล้ารับประกันว่า “No Mythologies to Follow” ชุดนี้ต้องเป็นงานที่ถูกหูคุณๆอย่างไม่ต้องสงสัยแต่สำหรับท่านผู้ฟังที่จำกัดความความหมายของดนตรีอิเล็คโทรนิคหรืออิเล็คทรอนิก้าไว้แค่ความเข้าใจที่ว่ามันคือ “ซินธิ์พ็อพ” หรือแค่ “EDM” งานชุดนี้อาจจะต้องใช้เวลาปรับหูนิดนึงสำหรับคุณๆเพราะเป็นอะไรที่ค่อนข้างไปทาง Experimental ลอย,หลอนและโหดมากกว่าจะฟังง่ายและแด๊นซ์กระจายแบบงานในตลาดเมนทสตรีม แต่ถ้าใครสามารถให้เวลาและทนกับอัลบั้มนี้ได้ดิฉันเชื่อว่าบางทีมุมมองทางดนตรีของคุณอาจจะเปลี่ยนไปในบางจุดเช่นเดียวกับรสชาติในการฟังดนตรีที่จะมีความจัดจ้านมากขึ้นทีเดียวนะคะ

อย่าหาว่าเว่อร์เลยนะคะแค่เสียงออร์แกนกับเสียงร้องกึ่งสวดเชิงกอสเพลใน Fire Rides (5/5) ดังขึ้นแค่นี้ก็รู้ว่าไม่ธรรมดาทั้งอัลบั้มแล้ว ส่วนตัวชอบการล้อเลียนดนตรีร่วมสมัยอย่างดั๊บสเต็ปวาดโครงสร้างลงไปเล่นกับซินธิ์พ็อพและอิเล็คทรอนิก้าแบบดาวน์เทมโพและแอมเบี้ยนท์หลอนๆ อาร์ทมาก มาที่ Maiden (4.5/5) เพลงเก่งที่เป็นอัลเทอเนทีฟแด๊นซ์น่ารักๆโดดเด่นบนท่วงทำนองเออร์บันแบบอาร์แอนด์บีกระฉึกกระฉัก อิเล็คโทรพ็อพงัดกับทริพฮอพหวานๆและซาวนด์ทดลองสไตล์เอ็กซ์เพอริเมนทัลได้อย่างดี Never Wanna Know (4.5/5) โพรแกรมมิ่งช่วงอินโทรช่างน่ารักและเย็นยะเยือกดีแท้ชนิดที่ Iamamiwhoamiได้ฟังแล้วต้องหันขวั่บเพียงแค่ของหนู MØ พ็อพกว่าและดูเหมือน Fever Ray ในภาคสดใสเจิดจรัสจวบจนบีเยิร์คในภาคที่ยังพอสื่อสารกับคนฟังรู้เรื่อง เพราะนะ! ในขณะที่ Red In The Grey (4/5) นี่ถ้าหนูบอกว่าหมายมั่นปั้นมือจะเป็น “Radiohead” หรือ “ธอม ยอร์ค” ในภาคผู้หญิงพี่ก็ว่าผ่านอยู่โดยเฉพาะน้ำเสียงเปี่ยมพลังโซลที่ทำให้งานอิเล็คโทรนิคของหนูดูมีชีวิตชีวาไม่แห้งกร้านโรยแรงและลึกลับน่าค้นหาอยู่ในทีนั่นอีก

Pilgrim (4.5/5) มาแปลกที่ผสานเครื่องเป่าแบบโซลที่ดูมีชีวิตชีวาและสดทรงพลังมากๆเข้ากับความเย็นยะเยือกของทริพฮอพและเอ็กซ์เพอริเมนทัลได้ลงตัว จะว่าไปถ้าน้องอยากจะขยับเข้าสายมินิมัลลิสท์ในชุดหน้าพี่ก็ว่ามีแววอยู่นะคะนี่ Walk This Way (4/5) ที่สลัดเอาความน่ารักสดใสมาช่วยชีวิตผู้ฟังไว้ได้ทันเวลาพอดีเนื่องจากช่วงครึ่งหลังตั้งแต่แทร็คที่7ลงมาหม่นและดิบมาก แอบคิดถึงว่าถ้าจาเนล โมนาอีกับอเมรีมาทำงานสายอิเล็คทรอนิก้าก็น่าจะอารมณ์นี้เช่นเดียวกับที่ถ้าFever Rayกับฟิโอน่า แอ็พเพิ่ลถ้าจะกลายร่างไปเป็นอเมรีหรือเซียร่าสักวันก็อาจจะมาประมาณนี้เช่นกัน Slow Love (5/5) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแทร็คที่พีคที่สุดของอัลบั้มกับการสลับมาทำดนตรีเฮ้าส์สวยหรูกรีดกรายแถมยังเปี่ยมจริตจก้านสุดๆ The Sea (4.5/5) เป็นอีกหนึ่งงานอิเล็คทรอก้าผสานซินธ์แบบ80sแรงๆเข้ากับโพรแกรมมิ่งและมิติเชิงทดลองที่น่าจับตาอีกเพลง ส่วน Gone And Found (4/5) ก็เป็นงานบัลลาดส่งท้ายเพราะๆที่ไว้เปิดกล่อมตัวเองก่อนเข้านอนได้อย่างดี พวก Night Version ที่เอามาปิดท้ายDeluxeก็สลับมาเรียบเรียงเป็นงานโซนเอ็กซ์เพอ,มินิมัลลิสท์,แจ๊ซซ์เล้าจ์นและคอนเทมโพรารี่ย์เก๋ๆอีกอารมณ์ให้ฟังกันซึ่งก็มี Fire Rides,Dust Is Gone,Slow LoveและThe Seaซึ่งมาในเวอร์ชั่นเรียบเรียงใหม่ได้น่าสนใจมากๆ

บางสำนักวิจารณ์อวยถึงขั้นว่าอาจจะเป็นการบุกเบิกงานอิเล็คโทรนิคในยุคโพสท์ดั๊บสเต็ปก็เป็นได้ซึ่งโดยส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าจะถึงขั้นปฐมฤกษ์แบบนั้นได้รึเปล่า ส่วนตัวขอสังเกตุการณ์ถึงความชัดเจนและอะไรที่ชัดเจนมากกว่านี้อีกชุดแล้วค่อยมาว่ากันแต่ตอนนี้อัลบั้มนี้จองที่หนึ่งในอัลบั้ม20อัลบั้มสุดประทับใจประจำปลายปีนี้ของทางเพจเป็นที่เรียบร้อย…งานดีขนาดนี้เชื่อว่ายากที่จะหลุด!


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ชอบ Glass ที่สุดค่ะ
รองมา Dust Is Gone
ฟังแล้วเหมือนมีมนต์สะกดจริงๆค่ะ อัลบั้มนี้
เป็นแฟนคลับนางเรียบร้อย

ปล.เห็นนางออกเสียงว่า มู นะคะ


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เพลงที่เลือกมาออโต้เพลย์เพราะอ่ะ ถึงกับต้องหาโหลดอัลบั้มเต็ม


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เป็นงานเพลงที่ดูมีราคามากคร้ะ ดนตรีนี่เริ่ดจริง ๆ
การใช้เสียงในบางเพลงฟังแล้วนึกถึงอิป้าพาโลม่าเลยคร้ะ เพลงให้อารมณ์ล่องลอยแต่เป็นอะไรที่จับต้องได้ ไม่ดูเวินเว่อ
ส่วนตัวชอบ Don't Wanna Dance , XXX 88 , Never Wanna Know
แต่ถ้าให้เลือกที่สุดของอัลบั้มคงต้อง Slow Love เลยคร้ะ เก๋มีคลาสมาก ชอบสุด ๆ
like

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
like like like like like


_________________

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว ตำแหน่ง AIM Yahoo Messenger MSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com