อิลลูมินาติ พิมพ์ว่า:
น้องจุก พิมพ์ว่า:
อิลลูมินาติ พิมพ์ว่า:
น้องจุก พิมพ์ว่า:
หล่อนรู้สึกเมหือนกันหรอเนี่ย ว่าโดนตัดสินรู้สึกยังไง 5555
หัวข้ออื่นชั้นวิจารณ์ที่ประเด็นนะ
ส่วนเรื่องที่บอก ใครยอมรับกฏไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาบวช เเล้วคนที่เขา ไม่เต็มใจมาบวช แต่โดนบังคับมาหละค่ะ หล่อนน่าจะเข้าใจดีน่ะ เหมือนกับบางคนเป็นผู้ชาย แต่กฏของสังคมบอกให้หล่อนต้องแต่งงานใช้ชีวิตกับผู้หญิง แล้วคิดทำได้ไหมละ อาจจะทำได้ แต่สุดท้ายเขาก็อาจจะ ไปคบผู้ชาย เป็นตุ๊ด หรือมีผัว ก้เท่ากับว่า ถ้าเป็นผู้ชาย แล้วรับกฏของสังคมไม่ได้ ก้ไม่ควรจะเป็นมนุษย์สินะ
โอเค ทีละอย่างนะ อย่าเอามารวมกัน
- ไม่พอใจที่จะบวช ก็ไม่ต้องบวช ถ้าโดนบังคับ นี่อีกเรื่อง
- สังคมบอกหรอต้องแต่งงาน เค๊าไม่ได้บอก ผู้หญิงหรือผู้ชายที่แก่ไปโดยไม่มีคู่ครองก็มี ถ้าอยู่ได้ก็อยู่ แต่ถ้าโดนบังคับ อีกเรื่องนึง
แล้วยอมรับกดสังคมไม่ได้ เกี่ยวไรกับจะเป็นมนุษย์ไม่เป็นมนุษย์ ?
หร่อนไม่เข้าใจหรอว่าทุกเรื่องมันก็คือเรื่องเดียวกัน จะมี อีกเรื่องๆ แยกประเภทไปอีกทำไม หล่อนลองคิดถึงสมัยโบราณทีเ่รเาป็นมนุษย์ ยังไม่มีศาสนา ไม่มีอารยธรรม แน่นอน เรื่องเพศมันถูกแสดงออกมา เช่น พระกระเทย หรืออะไร มันเป็นการแสดงออกตามสัญชาตญาณ เเล้วมันเสื่อมต้องไหน ? ถึงเขาจะถูกบังคับมาจริง แล้วเขามีทางเลือกอื่นๆ ในการเเสดงออกทางเพศไหม ถ้าต้องเข้าไปอยู่ในผ้าเหลืองเเล้ว และถ้ารักษากฏไม่ได้ แล้วทำไมศาสนาพุทธนาประเทศอื่นๆ ถึงมีเมียมีลุกได้ สรุปกฏก ก็เป็นแค่สิง่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมร่างกายเรา ไม่ให้ทำตัวนอกลู่ แต่การแสดงทางเพศออกมาเเบบนั้น ฉันคิดว่าไม่ผิด
ส่วนเรื่องบอกว่าเกี่ยวอะไรกับความเป็นมนุษย์ คือ การExpress ตัวเองออกไม่ไม่ใช่สิ่งที่ผิด ถ้าไม่ละเมิดใคร ส่วนเรื่องเเรงกดดันทางสังคมฉันแค่ เปรียบเถียบเกี่ยวกับเรื่องเพศว่า ถ้ายอมรับเพศตัวเองไม่ได้ ก็ไม่สมควรเป็นมนุษย์เหมือนกับ การแสดงออก = ความเป็นมนุษย์ ถ้าแสดงออกเเล้ว ผิดกฏ = ไม่สามารเเสดงความเป็นมนุษย์ได้ งั้นก็ไม่สมควรเป็น
โอเค เข้าใจและ
ที่ชั้นต้องแยกออกมา เพราะ sensitivity ของเรื่องมันไม่เท่ากัน และ characteristic มันต่างกัน มันรวมเป็นเรื่องเดียวกันไม่ได้ การแสดงออกทางเพศในเมืองไทยก็ไม่ได้มองว่าผิดนี่คะ ถ้าเค๊ามองหล่อนก็เชิืญวิจารณ์ตามสบาย เรพาะชั้นคิดว่าส่วนนี้ชั้นความคิดแบบเดียวกับหล่อนแน่นอน แต่ถ้าไปอยู่ในผ้าเหลืองซึ่งนิกายพุทธของไทยเค๊าตัดสินว่าไม่่เหมาะไม่ควร เพราะเค๊ามี characteristic ค่ะ ผู้ที่จะมาใส่ผ้าเหลืองคือผู้ที่จะต้องสืบทอดและถ่ายทอดหลักคำสอนและศาสนา เค๊าก็กำหนดข้อบัญญัติในการเป็นพระสงฆ์ในนิกายของเมืองไทย ในขณะที่นิกายอื่นๆที่อยู่ต่างประเทศ เช่น มีลูกมีเมียได้ อันนั้นก็เป็นกฏข้อมัญญัติของเค๊า ถ้าอยากได้แบบนั้น ทำไมไม่ไปนับถือนิกายแบบนั้น จะใส่ผ้าเหลืองเพื่ออะไร ชั้นไม่เข้าใจหล่อนจะเอามารวมกันทำไม อย่างนี้หล่อนรวมไปด้วยเลยค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดมาจาก Big Bang ทุกคนทุกสิ่งสัตว์เดรัชฉาน อะมีบา พารามีเซียม มีสิทธิเท่าเทียมกัน หากใครหายใจเอาเชื้อราเข้าไปช่วยเอามันออกมาด้วย อ๊ะๆๆ อย่าลืมอ๊อกซิเจนล่ะ ตอนหายใจออกช่วยทำให้เป็นอ๊อกวิเจนเหมือนเดิมนะคะ อย่าให้มันเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ ถ้าหล่อนไม่แยกความเฉพาะเจาะจงล่ะก็ หล่อนต้องคิดแบบนี้นะ เรื่องกฏที่สร้างขึ้น ชั้นก็เข้าใจเหมือนที่หล่อนเข้าใจค่ะ และมันเป็นตัวตัดสินว่าผิดหรือไม่ผิด ในเมื่อจะใส่ผ้าเหลืองแต่ดันไม่ทำตามกฏ ก็ถือว่าผิด นอกเสียจากว่า พรุ่งนี้เค๊าจะเปลี่ยนกฏใหม่ แล้วชั้นจะมาถอนคำพุด
เรื่องมนุษย์นะ ชั้นบอกว่าให้แยกออกจากกันระหว่างโดนบังคับกับไม่โดนบังคับ ถ้าไม่โดนบังคับ ที่ถ้าทำผิดกฏสมควรโดนด่า ถ้าโดนบังคับก็อีกเรื่อง ก็ต้องตั้งคำถามต่อสิคะ ทำไมเณรคนนี้ต้องพยายามสื่อให้เห็นลุคที่เป็นนางงามนางแบบ ทั้งๆที่หล่อนจะถอดผ้าเหลืองก่อนแล้วค่อยโพสท่าก็ได้ ถ้าอดกลั้นไม่ไหวเพราะถูกบังคับให้มาบวช นอกเสียจากว่า เณรคนนี้อาจจะไม่รู้กฏจริงๆว่าห้ามโพสท่าในผ้าเหลือง อันนี้ก็ต้องไปคิดต่อยอดอีกที
_________________